บทความโหราศาสตร์จากผู้รู้ท่านอื่นๆ

ในบทความนี้ได้กล่าวถึงความเห็นของนักโหราศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต 2 ท่าน  คือ อาจารย์เทพย์  สาริกบุตร  ดร.บีวี รามัน  และนักโหราศาสตร์ภารตะชาวอเมริกันในยุคปัจจุบัน คื อ James T Braha  เกี่ยวกับเรื่องของระยะวังกะ และค่าระยะวังกะที่ท่านเหล่านี้แนะนำ

ดวงชะตาของสุลต่าน ธิปู  กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์โมกุลที่ยิ่งใหญ่ของอินเดีย  พระองค์ได้อุทิศชีวิตของพระองค์ทั้งชีวิตอย่างองอาจกล้าหาญ ไม่ย่อท้อ พยายามต่อสู้และขับไล่อังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ จักรวรรดินิยม นักล่าอาณานิคมตัวหัวโจกในโลกยุคนั้น  เพื่อปกป้องเอกราชอธิปไตยของอินเดียไว้อย่างถึงที่สุด จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของพระองค์ในสมรภูมิสงครามที่กรุงศรีลังกาปัตนะ ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1799

จากคำสอนของอาจารย์ประยูร พลอารีย์  ซึ่งมีหลักเกณฑ์อยู่ชุดหนึ่งที่ท่านใช้สำหรับดูสมพงศ์เฉพาะในกรณีที่ หญิงชายทั้งสองได้แต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากันแล้วเท่านั้น  เมื่อพิจารณาในทางทฤษฎีผู้เขียนเห็นว่าหลักเกณฑ์นี้มีเหตุผลทางโหราศาสตร์สนับสนุนหนักแน่น  และเมื่อนำมาทดลองใช้ดูก็พบว่าแม่นยำเฉียบขาดอีกด้วย  ในทางปฏิบัติมีปัญหาอยู่ตรงที่ความยากในการคำนวณค่าองศาต่างๆเพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ เกือบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปรียบเทียบสมพงศ์ดวงชะตา หญิงชายด้วยวิธีนี้ให้ครบถ้วน หากไม่มีซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ที่เหมาะสม

เส้นสมรสนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาลายมือ ซึ่งเป็นแนวการสอนของท่านอาจารย์พอ.ปรีชา แดงบุบผา เป็นอาจารย์สอนและเป็นนักพยากรณ์วิชาลายมือไม่ต่ำกว่า 50 ปี ที่สมาคมโหรฯ ซึ่งนับว่าเป็นอาจารย์อันดับหนึ่งของประเทศไทย ผม อาจารย์อาคม ชูจันทร์ ได้จัดเผยแพร่ขึ้นเพื่อการศึกษาและระลึกถึงท่านอาจารย์ปรีชา แดงบุบผา ที่ล่วงลับไปแล้ว

มังคลิกาโยค เป็นโครงสร้างร้ายในการสมพงศ์ดวงชะตาที่ระบบโหราศาสตร์ภารตะให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ที่จะต้องตรวจหาในดวงชะตาของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงเป็นอันดับแรกหากตรวจพบโครงสร้างร้ายนี้ในดวงชะตาของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง  โดยไม่พบหลักเกณฑ์ยกเว้น  จะห้ามการแต่งงานระหว่างหญิงชายคู่นั้นเด็ดขาด

ในตอนนี้ผู้เขียนขอนำดวงชะตาของดารานางเอกที่อยู่ในกลุ่มที่ไม่ปรากฏโครงสร้างความเข้มแข็งของดาวศุกร์และโครงสร้างความงามอื่นๆชัดเจนมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง  โดยใช้หลักเกณฑ์การเป็นเกษตร อุจ ของดาวศุกร์ในระบบนิรายะนะ

ตามหลักวิชาตามคำสอนของอาจารย์เทพย์ฯนั้น   ท่านไม่ได้ใช้เพียง “วารทักษา” อย่างเดียวเท่านั้น โดยท่านใช้ “นามทักษา” (การเป็นลูกชายหรือลูกสาวคนที่เท่าไร) เข้ามาพิจารณาด้วย หากไม่นำ “นามทักษา” เข้ามาพิจารณาด้วยจะมีโอกาสตั้งชื่อโดยมีอักษร “กาลกิณี” ตามหลักเกณฑ์ “นามทักษา” เข้ามาร่วมอยู่ด้วย อันจะไม่เป็นมงคลอย่างแท้จริง

การนำโครงสร้างทั้งในระบบสายนะ (ตะวันตก) และระบบนิรายะนะ (ตะวันออก) มาใช้ร่วมกันนั้นช่วยให้การพิจารณาดวงชะตาในเรื่อง “ความงามของสตรี” สามารถพิจารณาได้ครอบคลุมกว้างขวางและลึกซึ้งในรายละเอียดมากขึ้น

บทวิเคราะห์เรื่อง