ไพ่กับดวงเมืองและดวง 12 ราศี? เก็บไพ่เอาไว้ทายให้คนที่เขาไว้ใจคุณดีกว่า
webmaster@rojn-info.com
(หมายเหตุเบื้องต้น บทความนี้นอกจากจะเป็นลิขสิทธิ์อันชอบธรรมของผู้เขียนแล้ว สิ่งที่เขียนยังอาจกระทบต่อความเชื่อทางโหราศาสตร์และศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้เขียนควรจะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว การที่จะนำบทความนี้ไปเผยแพร่นอกเว็บไซต์ rojn-info.com ของผู้เขียนจึงควรใช้วิธีการทำลิงก์ให้เข้ามาอ่านกัน ณ ที่นี้ แทนการ Copy บทความทั้งหมดไป Paste กันอย่างฉาบฉวยดังที่มักจะเกิดขึ้นตามเว็บบอร์ดและบล็อกต่างๆ ซึ่งอาจจะนำผลเสียบางประการมาสู่ตัวท่านเองได้ – Webmaster@rojn-info.com)
ถาม : ถ้าจะดูดวงเมืองด้วยไพ่ยิปซี ควรเริ่มต้นอย่างไรดีครับ?
ตอบ : ถ้าจะใช้ไพ่ทำจริง ๆ ต้องให้ นายกฯ เป็นคนเปิดไพ่เพราะเขากุมสภาพบ้านเมืองอยู่สิ่งที่เขาทำจึงส่งผลกับประเทศเรา
คำถามตำตอบข้างบนนี้ ผมตัดตอนจากกระทู้หนึ่งที่ pantip.com ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2559 เอามาเฉพาะสาระสำคัญที่จะนำมาเกริ่นนำบทความได้อย่างเท่ ๆ ส่วนคำถามคำตอบฉบับเต็ม ๆ แนะนำคลิกดูได้ที่ลิงก์ต่อไปนี้ครับ https://pantip.com/topic/35824303?fbcl คนตอบเขาให้เหตุผลประกอบเพิ่มเติมไว้น่าฟัง แม้จะไม่ได้บอกว่าแล้วตัวเขาเองได้ศึกษาพยากรณ์ศาสตร์ไหนมามากน้อยเพียงใด
อันที่จริงการนำเอาไพ่ทาโร่ต์ (Tarot) หรือไพ่ยิปซีข้ามห้วยมาพยากรณ์ดวงเมืองนั้น ในเมืองไทยทำกันมานานแล้ว ท่านผู้อ่านที่ยังอายุน้อยบางท่านอาจจะยังไม่เกิดด้วยซ้ำ มิหน้ำซ้ำยังมีการนำไพ่มาดูดวง 12 ราศีอีกต่างหาก ส่วนที่เมืองนอกนี่ไม่แน่ใจครับ เหมือนจะไม่เคยเห็น หรือจะเป็นเพราะเวลาผมดูเว็บเมืองนอกก็มุ่งแต่ข้อมูลโหราศาสตร์ก็ไม่ทราบได้
แล้วโหราศาสตร์ยูเรเนียนได้พูดถึงหรือมีความเกี่ยวโยงอะไรกับไพ่ทาโรต์หรือไม่?
ในระดับปรมาจารย์ผู้บุกเบิกนั้น ช่วงที่ผมเรียนกับท่านอาจารย์ พลตรี ประยูร พลอารีย์ เป็นเวลา 2 ปี เท่าที่พยายามนึกไม่เคยได้ยินท่านพูดถึงในด้านใดเลย ในตำราและเอกสารทั้งภาษาไทยและอังกฤษเท่าที่เคยผ่านตาก็ไม่เคยกล่าวถึง และคงไม่จำเป็นจะต้องไปกล่าวถึง เพราะโหราศาสตร์ยูเรเนียนใช้ “กองทัพจุด” เป็นพัน ๆ จุดอยู่แล้ว ด้านอาจารย์จรัญ พิกุล คล้าย ๆ ท่านจะเคยอ่านหรือเคยเขียนไว้ที่ไหนว่า เดี๋ยวนี้ไม่ต้องเรียนรู้ดาวก็ดูดวงได้ หยิบไพ่เอาเลยง่ายดี นึกไม่ออกว่าท่านพูดเมื่อไหร่หรือเขียนไว้ที่ไหน แต่คงไม่ถึงขนาดไปดูถูกศาสตร์นี้โดยสิ้นเชิงนะครับ ถ้าเจอในเอกสารหรือหนังสือเล่มไหนค่อยคัดลอกมาให้ดูกัน
ครั้นพอสิ้นปรมาจารย์ทั้งสองท่านแล้ว ก็เป็นธรรมดาครับที่ลูกศิษย์หลานศิษย์ทั้งหลายจะมีทัศนคติต่อไพ่พยากรณ์และพยากรณ์ศาสตร์อื่น ๆ แตกต่างกันออกไป บางท่านก็เรียนมาสารพัดศาสตร์ก่อนจะมาถึงโหราศาสตร์ยูเรเนียน บางท่านอาจไม่เคยเรียนศาสาตร์ใดมาก่อน พอเรียนแล้วจะเข้าถึงโหราศาสตร์ยูเรเนียนแค่ไหน เจอโลกภายนอกห้องเรียนเข้า แล้วใครจะลงเอยที่ยูเรเนียนหรือศาสตร์อื่นใดก็น่าจะเป็นเรื่องธรรมชาติ
ที่สำคัญคือจะเรียนศาสตร์ไหน จะเอาศาสตร์ไหนเป็นหลักเป็นรอง ต้องแยกแยะได้นะครับว่าศาสตร์ไหนเป็นศาสตร์ไหน แต่ละศาสตร์มีจุดอ่อนจุดแข็งและข้อจำกัดอย่างไร มันเหมือนกันหรือมันแยกจากกันตรงไหน เวลาออกคำพยากรณ์หรือเขียนวิเคราะห์อะไรต้องบอกเจ้าชะตาหรือผู้อ่านผู้ฟังให้ชัดเจนได้ว่า เอาอะไรมาทาย
สิ่งที่ผมได้พบเห็นแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่คือมีการนำเอาสัญลักษณ์ทางโหราศาสตร์แท้ ๆ ไปใส่ในไพ่บ้าง ลูกเต๋าบ้าง แล้วเขาเอาของพวกนี้มาทำอะไร? ดูดวงแล้วคิดอะไรไม่ออกก็หยิบไพ่หรือโยนลูกเต๋าเหรอ? ท่านอัลเฟรด วิตเต และปรมาจารย์ท่านอื่น ๆ อุตส่าคิดค้นและพัฒนาโหราศาสตร์ยูเรเนียนขึ้นมาเพื่อให้ท่านมาหยิบไพ่โยนลูกเต๋ากันเหรอ? โปรแกรมคอมพิวเตอร์และแอพต่าง ๆ ที่ช่วยทั้งการผูกดวงและการคำนวณอื่น ๆ ได้ตั้งเยอะยังต้องพึ่งของเหล่านี้อีกเหรอ? แล้วกาลเทศะไหนจะดูดวงยูเรเนียนห้าพันจุด กาลเทศะไหนจะหยิบไพ่โยนลูกเต๋า?
วันดีคืนดีก็ถึงคิวนำเอาคำพยากรณ์ดวงเมืองด้วยไพ่มากล่าวชักแม่น้ำทั้งห้าอ้างความเชื่อมโยงระหว่างไพ่ทาโรต์กับโหราศาสตร์ด้วยประการต่าง ๆ
ภาพประกอบจากแอพ Ator Tarot ใน iPad
แล้วโหราศาสตร์กับพยากรณ์ศาสตร์ต่าง ๆ มันมีความเกี่ยวโยงกันแค่ไหน?
เท่าที่เคยอ่านเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของไพ่ที่ใช้พยากรณ์ ทั้งไพ่ป๊อกและไพ่ทาโร่ต์ มาบ้าง ต่างก็อ้างถึงความสัมพันธ์กับโหราศาสตร์และธรรมชาติ ดังเช่นไพ่ป๊อกที่แบ่งออกเป็น 4 กลุ่มก็แทนฤดูกาลทั้ง 4 ของโลกสากล ไพ่ทั้งสำรับมี 52 ใบ แทน 52 สัปดาห์ใน 1 ปี ฯลฯ ทางฝ่ายไพ่ทาโร่ต์/ไพ่ยิปซีนั้นก็มีเรื่องราวทำนองเดียวกัน แต่ในรายละเอียดขอไม่กล่าวถึงในที่นี้ ในมุมมองของผมเองการคำนวณตำแหน่งดาวเคราะห์ต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาตลอด อาจารย์พลตรีประยูร พลอารีย์ เคยกล่าว่าในยุคที่ยังไม่มีเครื่องช่วยคำนวณใด ๆ นั้น แค่คำนวณหาอาทิตย์เพียงดวงเดียวก็ใช้เวลาทั้งวัน ทำให้วิชาโหราศาสตร์ถูกจำกัดอยู่เฉพาะในกลุ่มชนชั้นสูงและนักวิชาการที่จะมีเวลาว่างหรือลูกมือพอที่จะช่วยการคำนวณได้ แล้วคนทั่วไปที่ไม่มีกำลังหรือศักยภาพดังว่าแต่ยังอยากรู้อยากเห็นดวงชะตาจะทำอย่างไรได้ พวกเขาก็ต้องหาวิธีการหรือสื่ออะไรบางอย่างที่จะใช้ทดแทนตำแหน่งดาวในท้องฟ้าที่พวกเขาไม่มีกำลังจะคำนวณได้ จึงเกิดเป็นศาสตร์พยากรณ์ต่าง ๆ ที่เหมือนจะมีโหราศาสตร์แฝงอยู่ ไม่ว่าเลข ๗ ตัว กราฟชีวิต ไพ่ชนิดต่าง ๆ หรืออะไรอื่น ๆ ที่แล้วแต่จะคิดกันขึ้นมา
แม้ในยุคปัจจุบันจะมีคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ที่สามารถคำนวณปัจจัยทางโหราศาสตร์ได้ในพริบตา แต่องค์ประกอบต่าง ๆ ที่ใช้ในโหราศาสตร์ก็ยังมีมากมาย ตั้งแต่จักรราศี 12 ราศี เรือนชะตา 12 เรือน ดาวเคราะห์จำนวนมากน้อยแล้วแต่สำนักไหน รวมถึงหลักเกณฑ์ต่าง ๆ อีกสารพัดสารเพ ก็ยังทำให้โหราศาสตร์ทุกแขนงยังคงมีรายละเอียดมากมายก่ายกอง ทำให้ผู้ประสงค์จะเป็นนักพยากรณ์ยังคงหันเหเข้าสู่พยากรณ์ศาสตร์ที่คนโบราณคิดขึ้นมาทดแทนโหราศาสตร์มากกว่าที่จะศึกษาโหราศาสตร์อันเป็นเรื่องของดวงดาวและท้องฟ้าแท้ ๆ
บรรดาพยากรณ์ศาสตร์เบ็ดเตล็ดที่คิดค้นขึ้นมาทดแทนหรือชดเชยความยุ่งยากของโหราศาสตร์นี้จะบอกว่ามันเหลวไหลไม่แม่นยำก็คงเกินกว่าเหตุ อย่างน้อยก็ดำรงอยู่กับความเชื่อของคนส่วนหนึ่งในสังคมมานานเช่นกัน ประเด็นอยู่ที่ว่าศาสตร์แต่ละศาสตร์มันมีขอบเขตตรงไหน
ก่อนเขียนบทความนี้ผมลองค้นหาดูว่าบรรดาเว็บไพ่ทาโรต์เขาพูดถึงข้อจำกัดของตัวเองไว้อย่างไรหรือไม่ คำตอบที่ได้มีเพียงแค่ว่าการห้ามถามคำถามเดิมซ้ำ ๆ บ่อย ๆ แล้วก็เลยไปเรื่องจรรยาของนักพยากรณ์ประเภทห้ามพยากรณ์คนเจ็บคนตาย ห้ามยุแหย่ให้คนทะเลาะกัน ฯลฯ อะไรไปนู่น
แต่หากจะพิจารณากันโดยสามัญสำนึกแล้ว การพยากรณ์แบบเสี่ยงทายไม่ว่าจะเป็น ไพ่ป๊อก ไพ่ทาโร่ต์ หรือเซียม ซีอี้จิง ประเด็นสำคัญที่เหมือนกันของการพยากรณ์เหล่านี้คือ เจ้าชะตาหรือเจ้าของเรื่องเจ้าของปัญหาเป็นผู้ขอคำพยากรณ์ การขอคำพยากรณ์แทนคนอื่นจะไม่มีความน่าเชื่อถืออะไร กรณีไพ่ทาโร่ต์เจ้าชะตาอยากรู้อะไร ถ้าอ่านไพ่เองเป็น ก็สับไพ่หยิบไพ่เอง ทายเองให้เสร็จสรรพไปเลย แต่ถ้าไม่มีความรู้ก็ไปหาคนที่เขาตั้งตัวเป็นหมอดู เขาบอกให้สับไพ่หยิบไพ่อะไรก็ทำตามที่เขาบอก เขาก็จะทายเรื่องของเราออกมา ถ้าเราเกิดอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่น เราจะมีสิทธิอะไรที่จะไปหยิบไพ่แทนเขา เช่นเดียวกันถ้าคนอื่นทะลึ่งไปหยิบไพ่ถามปัญหาแทนเราแล้วบอกว่าเป็นอย่างงั้นอย่างงี้ เราจะไม่รู้สึกหรือว่า “มึง” มีสิทธิอะไรมาจับไพ่แทน “กู” ในเมื่อ “กู” ไม่ได้เป็นคนจับไพ่ (ไม่ได้อยากดูดวงเลยด้วยซ้ำ) “มึง” ทายอะไรออกมาเพ้อเจ้อเปล่าประโยชน์ แต่ถ้าเป็นกรณีการดูดวงโหราศาสตร์ซึ่งอาศัยวันเวลาเกิด “มึง” อาจไม่มีมารยาทที่เอาดวง “กู” ไปดูโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่คำพยากรณ์ของ “มึง” จะผิดถูกสถานใดก็จะขึ้นอยู่กับความรู้หลักวิชาและประสบการณ์ต่างหาก ไม่ได้กลายเป็นโมฆะไปตั้งแต่แรกเพราะความเสียมารยาทหรือการไม่ได้รับมอบอำนาจแต่อย่างใด
การพยากรณ์ในแบบ “ไพ่ยิปซี 12 ราศี” นับเป็นนวัตกรรมอันย้อนแย้งกันในตัวเองเกินกว่าจะให้ความเชื่อถือได้ ในด้านหนึ่งต้องมาจัดแบ่งบรรดาผู้อ่านพยากรณ์ออกเป็น 12 พวก ตามช่วงเวลาของวันเกิด อันเป็นเรื่องของตำแหน่งอาทิตย์ในวันที่เจ้าชะตาเกิด แต่กลับออกคำพยากรณ์โดยใช้การเรียงไพ่ ตัวผู้พยากรณ์มีสิทธิอำนาจอันใดในการที่จะไปจับไพ่เรียงไพ่แทนคนแต่ละราศี อย่าว่าแต่การจับไพ่แทนคนทั้ง 12 ราศีเลย คนพยากรณ์เองก็เกิดได้แค่ราศีเดียว แต่คนที่เกิดราศีเดียวกับคุณเป็นล้าน ๆ เขามอบหมายให้คุณเป็นตัวแทนหรือเปล่า แล้วจะต้องหาคนเกิดราศีอื่นอีก 11 คน 11 ราศี มาช่วยหรืออย่างไร ปล่อยให้นักโหราศาสตร์ตอบปัญหาเรื่องคนเกิดราศีเดียวกันเป็นล้าน ๆ ต่อไปดีกว่าไหม
เรื่องของดวงเมืองหรือดวงประเทศชาติก็เช่นเดียวกันครับ ผู้พยากรณ์มีสิทธิอำนาจอะไรในการจะมาทำนาย ดังในกระทู้พันทิปที่ผมอ้างถึงตั้งแต่ต้น คนตอบกระทู้เขายังถนอมน้ำใจโดยบอกว่าถ้ามีบุญมีวาสนาก็สามารถจะรู้และแปลความหมายได้ แต่จะเอาอะไรมาวัดให้เห็นประจักษ์ได้ละครับว่าใครมีบุญวาสนาพอ ชื่อเสียง ความนิยม หรือประสบการณ์จะเป็นข้ออ้างได้หรือไม่ การจะให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้เปิดไพ่ดูน่าจะสมเหตุผลมากกว่า ไม่ว่าเขาจะได้สิทธิการบริหารประเทศมาโดยการเลือกตั้งหรือการยึดอำนาจก็ล้วนเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการมากมายมหาศาลเพื่อให้ประชาชนยอมรับ
ส่วนการดูดวงเมืองของบรรดานักโหราศาสตร์ประเด็นจะไม่ใช่เรื่องของการจะมีสิทธิอำนาจหรือมีใครมอบหมายให้ทำนายหรือไม่ ผมได้เคยกล่าวในบทความเก่าไว้ว่า การดูดวงเหตุการณ์บ้านเมืองนั้น แนวทางหนึ่งเราต้องหาวันเวลาที่จะเป็น “พื้นดวง” ของบ้านเมืองนั้น มาผูกดวงชะตา ซึ่งอาจเป็นวันเวลาก่อตั้งเมืองหลวงอย่างฤกษ์เสาหลักเมืองกรุงเทพฯ หรือวันเวลาแต่ละชาติประกาศเอกราช แต่อีกสายหนึ่งไม่ได้ใช้ “พื้นดวง” ดังที่ว่า ขอเพียงผูกดวงจังหวะฟ้าที่สำคัญ ณ เมืองหลวงประเทศนั้น ๆ ก็จะตีความออกมาได้
หากจะถามว่า แล้วนักโหราศาสตร์มีสิทธิอำนาจอะไรมากกว่านักพยากรณ์ไพ่ยิปซีในอันที่จะพยากรณ์ดวงเมือง ย้ำอีกทีว่าการดูดวงด้วยไพ่หรือกรรมวิธีเสี่ยงทายใด ๆ ดั้งเดิมเขาทำมาเพื่อให้เจ้าชะตาหรือเจ้าของเรื่องเป็นคนไปขอให้หมอทำนายให้โดยไม่ได้ใช้ข้อมูลอะไร มีแต่ความเชื่อใจที่เจ้าของเรื่องมีต่อตัวหมอดู ถ้าเจ้าชะตาเขาไม่เล่นด้วยหรือเจ้าชะตาไม่ได้เป็นตัวคนที่จะเอามือมาจับไพ่หรืออุปกรณ์เสียงทายได้เองได้อย่างดวงบ้านเมือง มันไม่มีตัวข้อมูลจริงอะไรจะพยากรณ์นอกจากเอาอัตตามาอ้างตัวเป็นผู้มีญาณวิเศษ ส่วนโหราศาสตร์นั้น อาศัยข้อมูลวันเวลาและสถานที่เกิดของเจ้าชะตามาคำนวณตำแหน่งดาวแล้วพยากรณ์ออกมา ถ้าเจ้าชะตาเป็นคนแล้วไปขโมยดูข้อมูลกำเนิดเขาจากสูติบัตรหรือแหล่งข้อมูลไหนโดยเจ้าตัวไม่อนุญาตอาจจะเสียมารยาท แต่เป็นคนละประเด็นกับทายได้-ไม่ได้ แม่น-ไม่แม่น ยิ่งถ้าเป็นการพยากรณ์บ้านเมืองแล้ว ข้อมูลกำเนิดของเมืองของประเทศที่จะเอามาเป็นพื้นดวงมันก็เป็นข้อมูลสาธารณะที่ค้นหากันได้ทั่วไป ข้อมูลดวงจรท้องฟ้าไม่ว่าระบบไหนมันก็คือปฏิทินโหรที่เดี๋ยวนี้มีแพร่หลายทั้งออนไลน์ออฟไลน์ ทั้งฟรีและไม่ฟรี และตำแหน่งดาวที่ใช้ในโหราศาสตร์สมัยใหม่อย่างโหราศาสตร์สากล โหราศาสตร์ยูเรเนียน โหราศาสตร์ภารตะ และโหราศาสตร์ไทยที่อิงปฏิทินลาหิรีนั้น มันก็มีที่มาจากข้อมูลทางดาราศาสตร์ แม้ดาราศาสตร์จะไม่ยอมรับโหราศาสาตร์ก็ตาม
ที่สำคัญคือโหราศาสตร์นั้นอ้างอิงข้อมูลตั้งต้นจากท้องฟ้าเดียวกัน แม้จะมีอาการเสียงแตกในเรื่องปลีกย่อยบางประเด็น เช่น จะใช้จักรราศีระบบนิรายนะ สายนะ หรือคำนวณตามคัมภีร์เดิม จะใช้ดาวเคราะห์ไหนถึงดวงไหน บางดวงจะใช้หรือไม่ใช้ จะใช้เรือนชะตาแบบไหน ฯลฯ ก็ล้วนเป็นวิวาทะจากท้องฟ้าเดียวกันหรือจักรวาลเดียวกัน ซึ่งคนที่เรียนระบบเดียวกันหรือสำนักเดียวกัน ก็ย่อมจะผูกดวงออกมาเหมือนกัน ใช้หลักการอันเดียวกัน แล้วการพยากรณ์ก็จะต่างกันไปตามความรู้และประสบการณ์ แต่ไพ่พยากรณ์อย่างไพ่ทาโร่ต์นั้น ผู้พยากรณ์ต่างคนต่างมีไพ่สำรับของตัวเอง ต่อให้เป็นศิษย์สำนักเดียวกันหรือเป็นศิษย์อาจารย์กันมา หากต่างคนต่างหยิบไพ่ขึ้นมาพยากรณ์ ก็จะได้ไพ่คนละใบคนละชุดกัน การพยากรณ์ก็จะไปคนละเรื่องกัน จะมาบอกว่าอาจารย์เจ้าสำนักหยิบแล้วลูกศิษย์ไม่ต้องหยิบให้ทายจากไพ่ของอาจารย์เท่านั้นจะห้ามกันได้หรือ ไพ่พยากรณ์หรือการพยากรณ์แบบเสี่ยงทายในลักษณะเดียวกันนี้จึงไม่ได้มีไว้สำหรับทายเรื่องของสังคมส่วนรวม แต่เป็นเรื่องที่คน ๆ หนึ่งไว้วางใจให้ใครอีกคนหนึ่งพยากรณ์ชีวิตให้ ถ้าตัวเองเรียนมาจนมั่นใจก็อาจจะทายตัวเองก็ได้ ไม่ใช่มีไพ่สำรับเดียวแล้วอวดรู้ไปหมดทุกเรื่องทุกกาลเทศะ
เขียนตรงนี้ ใครจะเข้าใจว่าผมดูถูกไพ่ยิปซีหรือไพ่ทาโร่ต์หรือเปล่า โดยเจตนาแล้วไม่ถึงขนาดนั้น แต่ถ้าใครจะเข้าใจไปอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้ โดยส่วนตัวผมก็มีแอพไพ่ทาโร่ต์ของฝรั่งเจ้าหนึ่งอยู่ในไอแพดประจำตัว แล้วก็มักจะต้องใช้บริการ Today’s Card (บางแอพหรือบางตำราอาจจะใช้คำว่า Card of the Day) อยู่เป็นประจำ ถัดมาก็อาจจะขอคำพยากรณ์แบบไพ่ใบเดียวบ้าง ไพ่สามใบ (อดีต ปัจจุบัน อนาคต) บ้าง การเรียงไพ่แบบอื่นเคยใช้บริการอยู่ทีสองทีแล้วก็เลิก เมื่อใช้บริการแต่ละครั้งก็เตือนตัวเองอยู่เสมอว่า ไม่ว่าไพ่หรือดวงดาวเขาไม่โกหกเรา แต่เขามีภาษาหรือวิธีที่จะสื่อสารตามแบบของเขา มีแต่เราเองจะเข้าใจแค่ไหนต่างหาก ถ้าจะถามว่าเรียนโหราศาสตร์โดยเฉพาะโหราศาสตร์ยูเรเนียนพันจุดแล้วเรียนไพ่ทาโร่ต์ด้วยได้หรือเปล่า ที่จริงก็ไม่ได้มีข้อห้ามออกมาชัด ๆ แต่ต้องแยกแยะให้ชัด ๆ ว่า โหราศาสตร์ก็คือโหราศาสตร์ ไพ่ก็คือไพ่ ศาสตร์ไหนมีพื้นฐานที่ยังไงและทำอะไรได้แค่ไหน โดยโหราศาสตร์ยังถือว่ามีความสำคัญกว่า ใช้งานได้กว้างขวางกว่า แต่ก็อย่าไปดูถูกการทายไพ่หรือศาสตร์อื่นใด จะเรียนรู้ไว้บ้างจนถึงการนำมาใช้แทนโหราศาสตร์ในบางโอกาสก็ต้องมีสติรู้เท่าทันและตอบตัวเองได้เป็นอันดับแรกจะเรียนจะใช้ไปทำไม และระวังที่จะไม่เสพติดมันจนละเลยโหราศาสตร์ ส่วนท่านอื่นที่เคยแต่พยากรณ์ไพ่หรือใช้พยากรณ์ศาสตร์อื่นไม่ใช่โหราศาสตร์ จะเข้ามาเรียนโหราศาสตร์บ้างหรือไม่ก็แล้วแต่ท่านจะเห็นความสำคัญ และอย่าใช้ไพ่พยากรณ์เกินขอบเขตของมันเลยครับ เก็บไว้ดูแต่ดวงตัวเองกับดวงคนที่เขาไว้ใจให้คุณพยากรณ์ให้ก็พอแล้ว