|
 |
จักรราศี 
วันที่ 03/03/2011 16:35:28
มีผู้อ่านรายหนึ่งเมล์มาทักอ้อมๆ เป็นนัยว่าบทความด้านโหราศาสตร์ของผมในเว็บนี้อาจจะยากไปสำหรับคนทั่วไป คราวนี้เลยอยากนำเสนอเรื่องพื้นฐานที่คนทั่วไปน่าจะทำความเข้าใจได้บ้าง คิดไปคิดมานึกได้ว่าเคยทำ Powerpoint อธิบายโหราศาสตร์ค้างๆ คาๆ ไว้ คราวนี้เลยอยากนำภาพและเรื่องราวเกี่ยวกับจักรราศีมาเสนอดังนี้ครับ
ในวิชาโหราศาสตร์และดาราศาสตร์นั้น เพื่อให้ง่ายต่อการกำหนดตำแหน่งของดาวต่างๆ เราจะสมมติเสมือนหนึ่งว่าฟ้าเป็นทรงกลมมหึมาอันหนึ่ง ลักษณะเดียวกับทรงกลมของโลก และสมมติต่อไปอีกว่ามีเส้นรุ้งเส้นแวงแบบเดียวกับโลก แต่เส้นที่สำคัญกับโหราศาสตร์คงมีแค่เส้นศูนย์สูตรท้องฟ้าที่คู่ขนานกับเส้นศูนย์สูตรโลกครับ
ส่วนอาทิตย์ซึ่งแม้ในปัจจุบันเราทราบดีว่าโลกเป็นบริวารของเขา แต่เพื่อความสะดวกบางประการในการคำนวณทางโหราศาสตร์และดาราศาสตร์ จึงสมมติอีกว่าอาทิตย์โคจรรอบโลก ซึ่งเส้นทางที่เราเห็นเสมือนว่าเขาโคจรรอบเราในท้องฟ้านั้นมันมีความเอียงและจุดตัดกับเส้นศูนย์สูตรท้องฟ้าดังในภาพที่สอง จุดตัดด้านหนึ่งเรากำหนดให้เป็นจุดเริ่มต้นราศีเมษ และอีกด้านเป็นจุดเริ่มต้นราศีตุลย์ เมื่อแบ่งซอยไปให้ครบทั้ง 12 ราศีจะเป็นราศีละ 30 องศา
ทีนี้จะมาถึงปัญหาที่พบบ่อยในหมู่ผู้(ยัง)ไม่รู้วิชาโหราศาสตร์ว่าทำไมคอลัมน์ดูดวงบางแห่งฉันอยู่ราศีนี้ พอไปอีกคอลัมน์กลายเป็นอีกราศี คือเดิมในสมัยแรกๆ นั้น จุดเริ่มต้นราศีเมษอันเกิดจากจุดตัดระหว่างเส้นศูนย์สูตรฟ้ากับเส้นระวิมรรค(เส้นทางโคจรของดวงอาทิตย์ = Ecliptic)นั้นมันมีจุดสังเกตที่ดาวฤกษ์ดวงหนึ่ง และราศีที่แบ่งซอยเป็น 12 ราศีก็จะไปตรงกับกลุ่มดาว 12 กลุ่ม แล้วก็มีการตั้งชื่อกลุ่มดาวและราศี 12 ชื่อดังที่เราทราบกันดี แต่ต่อมามีการค้นพบกันว่า จุดตัดดังกล่าวเคลื่อนออกจากจุดเดิมในอัตราส่วนที่ปัจจุบันโหราศาสตร์ไทยใช้คำว่า “อยนางศ” หรือ “อายนางศ์” มาจากศัพท์บัญญัติภาษาภารตะว่า “Ayanamsa” ภาษาอังกฤษใช้คำว่า “Precession of Equinox” การเคลื่อนที่ดังกล่าวทำให้วงการโหราศาสตร์มีความเห็นแตกเป็นสองกลุ่มใหญ่ คือ
กลุ่มที่เห็นควรยึดการแบ่งราศีด้วยจุดตัดระหว่างเส้นศูนย์สูตรฟ้ากับเส้นระวิมรรค เรียกว่าจักราศีแบบสายนะ (Tropical Zodiac) โดยมากเป็นนักโหราศาสตร์ตะวันตก
กลุ่มที่เห็นควรยึดการแบ่งราศีตามกลุ่มดาวฤกษ์ดังเดิม เรียกว่าจักรราศีแบบนิรายนะ (Sidereal Zodiac) แน่นอนว่าเป็นกลุ่มนักโหราศาสตร์ตะวันออก รวมถึงโหราศาสตร์ไทย
แม้ว่าจักรราศีแบบสายนะจะเป็นจักรราศีแบบเคลื่อนที่ แต่สามารถคำนวณจุดแน่นอนได้ แต่จักรราศีนิรายนะกลับมีข้อถกเถียงกันถึงตำแหน่งที่แท้จริงของจุดเริ่มราศี เนื่องจากดาวฤกษืที่เคยตรงกับจุดเริ่มราศีเมษนั้นหายไปแล้ว จึงได้พยายามให้จุดหลักที่อยู่ตรงข้ามดาว Spica ในราศีตุลย์ ซึ่งมีกลุ่มหนึ่งว่าเป็นจุดที่ตรงข้ามดาวนี้พอดี แต่อีกหลายกลุ่มเห็นว่าเป็นจุดอยู่ถัดออกไปมากบ้างน้อยบ้างตามแต่จะคิดสูตรกันขึ้นมา ในวงการโหราศาสตร์ไทยนั้นจะมีกลุ่มหนึ่งที่ใช้การคำนวณอยนางศตามแบบของภารตะ โดยปฏิทินเล่มสำคัญของกลุ่มนี้คำนวณโดยอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งยึดการคำนวณดาวตามคัมภีร์โบราณคือคัมภีร์สุริยยาตร์ซึ่งไม่ได้คำนึงถึงหลักดาราศาสตร์สากลหรืออยนางศอะไรทั้งสิ้น ปฏิทินเล่มสำคัญของกลุ่มนี้คำนวณโดยอาจารย์ทองเจือ อ่างแก้ว ในภาษาพูดของวงการโหราศาสตร์ไทยจะเรียกว่า ผูกดวงแบบอาจารย์เทพย์ หรือผูกดวงแบบอาจารย์ทองเจือ อะไรทำนองนี้ ปัจจุบันอาจารย์นักคำนวณทั้งสองท่านถึงแก่กรรมแล้ว
ส่วนในวงการโหราศาสตร์ยูเรเนียนซึ่งเป็นโหราศาสตร์สากลแขนงหนึ่ง ได้ยึดถือจักรราศีแบบสายนะ ด้วยเหตุผลตามเอกสารของอาจารย์พลตรีประยูร พลอารีย์ ว่า
1. มีจุดที่แน่นอนบนท้องฟ้า (จุดตัดระหว่างศูนย์สูตรฟ้ากับระวิมรรค)
2. เมื่ออาทิตย์โคจรผ่าน มีปฏิกิริยาจาก ธรรมชาติขานรับ คือ ใบไม้ผลิ
3. มีผลทางด้านความเป็นไปของชีวิตเห็นได้ชัด
ราศีทั้ง 12 ในจักรราศีต่างก็มีความหมายในการพยากรณ์แตกต่างกันออกไป ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถค้นคว้าได้จากตำราที่วางขายอยู่ทั่วไปหรือครูบาอาจารย์ของท่าน ส่วนบทความนี้ขอทำหน้าที่แต่เพียงเท่านี้
|
หลักโหรโดนใจ
|
