"One day of life as a Tiger is far better than thousand years of living as a Jackal          
- ข้าขอมีชีวิตอยู่อย่างราชสีห์แม้เพียงวันเดียว ก็ยังดีกว่ามีชีวิตอยู่เยี่ยงสุนัขจิ้งจอกไปอีกนับพันปี"

กษัตริย์ธิปู   
   4 พฤษภาคม ค.ศ. 1799

 

1.  บทนำ

1 ธันวาคม ค.ศ. 1751 – 4 พฤษภาคม 1799   รวมพระชนมายุ  47 ปี 5 เดือน
สู้ตายคาสนามรบ  เสียชีวิต  เสียราชบัลลังก์ เสียแผ่นดิน เสียราชอาณาจักร เสียทุกสิ่งทุกอย่าง

ข้อความขึ้นต้นบทนำทั้งหมดรวมทั้งรูปดวงชะตาตามที่แสดง คัดลอกมาจากบันทึกคำสอนที่อาจารย์เทพย์  สาริกบุตรท่านบรรยายในชั้นเรียนที่สมาคมโหรแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2519  ท่านเอ่ยปากชื่นชมดวงชะตานี้ด้วยความยกย่องว่า ดวงนี้เรียกว่า “ดวงธิปู”  ให้จำไว้และศึกษาให้ดี  ดวงชะตารูปแบบนี้เจ้าชะตาจะเป็นคนไม่ยอมแพ้ใคร สู้จนถึงที่สุด แม้จนตัวตาย

ดวงชะตานี้เป็นดวงชะตาของสุลต่าน ธิปู  กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์โมกุลที่ยิ่งใหญ่ของอินเดีย  พระองค์ได้อุทิศชีวิตของพระองค์ทั้งชีวิตอย่างองอาจกล้าหาญ ไม่ย่อท้อ พยายามต่อสู้และขับไล่อังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ จักรวรรดินิยม นักล่าอาณานิคมตัวหัวโจกในโลกยุคนั้น  เพื่อปกป้องเอกราชอธิปไตยของอินเดียไว้อย่างถึงที่สุด จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของพระองค์ในสมรภูมิสงครามที่กรุงศรีลังกาปัตนะ ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1799

อังกฤษและฝรั่งเศสแข่งขันกันเข้ายึดครองประเทศต่างๆทั่วโลกเป็นเมืองขึ้น ด้วยกองทัพและเครื่องจักรสงครามสมัยใหม่ของพวกตนที่เหนือกว่าผู้อื่น  ฝรั่งเศสรุกเข้ามาทางอินโดจีนเป็นหลัก ในขณะที่อังกฤษเข้ารุกรานอินเดีย กลืนกินยึดครองทีละส่วนๆ ไปเรื่อยๆ  จนหมดทั้งประเทศอินเดียในที่สุดภายหลังการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ธิปูในสมรภูมิศรีลังกาปัตนะ เมื่อปี ค.ศ. 1799

 อาจารย์เทพย์ ท่านไม่ได้บรรยายวิเคราะห์โครงสร้างให้ไว้ด้วย  เพียงบอกสั้นๆตามวรรคต้นเท่านั้น  ในบทความนี้ผู้เขียนจึงได้พยายามวิเคราะห์โครงสร้างรูปแบบนี้ ว่าประกอบด้วยโครงสร้างทางโหราศาสตร์อะไรและอย่างไร  อาจารย์เทพย์ ท่านจึงเรียกว่า  “ดวงธิปู (ดวงสู้ตาย)

 

2. วิเคราะห์ดวงชะตา

จากการศึกษาข้อมูลในประวัติศาสตร์ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมคือ พระองค์ประสูติที่ เมืองบังกะลอร์ ประเทศอินเดีย      ( 13.00 เหนือ 77.35 ตะวันออก) วันที่ 1 ธันวาคม  ค.ศ. 1751 เวลา 8.00 น. ใช้ซอฟท์แวร์ “จิตรา” ของคุณโรจน์ผูกดวงชะตาพร้อมทั้งสมผุสดาวได้ดังนี้
 

 

โครงสร้างสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประเด็น “ดวงสู้ตาย” ก็ คือ กลุ่มดาว อาทิตย์ พุธ เสาร์ ราหู ในราศีพิจิก ภพที่ 12  และดาวพฤหัส ในราศี พฤษภ  ภพที่ 6 ก่อให้เกิดราชาโยคที่มีกำลังแรง  3 โครงสร้างด้วยกัน  (อาทิตย์ กุม พุธ, พฤหัส เล็ง อาทิตย์, พฤหัส เล็ง พุธ) ซึ่งเป็นการสัมพันธ์กันระหว่างเจ้าเรือนเกณฑ์ (วิษณุเทพ – อำนาจ) กับ เจ้าเรือนโกณ (ลักษมีเทวี – ทรัพย์สิน) – ดูรายละเอียดในบทความเรื่อง  “ความสำคัญของดาวพฤหัสในทัศนะโหราศาสตร์ ตะวันออก – ตะวันตก”  พระองค์จึงถือกำเนิดในราชวงศ์โมกุลที่ยิ่งใหญ่ และทรงมีอำนาจทางการเมืองเป็นอันมาก  ที่น่าสังเกตคือ หนึ่งในราชาโยคที่เกิดขึ้นเป็นการกุมกันระหว่างเจ้าเรือนภพที่ 10 – อาทิตย์ (ภพที่ 10 เป็นภพเกณฑ์ที่เข้มแข็งที่สุด)  และเจ้าเรือนภพที่ 9 – พุธ (ภพที่ 9 เป็นภพโกณที่เข้มแข็งที่สุด)  ราชาโยคที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้โหราศาสตร์ภารตะถือว่าเป็น ราชาโยค ชั้นยอด มีชื่อเรียกเฉพาะว่า “ธรรมะกรรมะอธิปไตยโยค” โหราศาสตร์ภารตะอธิบายเพิ่มเติมว่า เรือนที่ 10  หมายถึง สิ่งที่บุคคลกระทำในชีวิต  เรือนที่ 9  หมายถึงสิ่งที่บุคคลสมควรกระทำในชีวิต เมื่อเจ้าเรือนที่ 9 สัมพันธ์กับเจ้าเรือนที่ 10  กรรมะ (การกระทำ) จึงหลอมรวมเข้ากับ ธรรมะ  (คุณธรรม) ซึ่งหมายถึง การกระทำของเจ้าชะตาผูกพันอยู่กับคุณธรรม

ค.ศ. 1799  อังกฤษยกกองทัพเข้าโจมตีกรุงศรีลังกาปัตนะ  กษัตริย์ธิปูรวมรวมกองทัพอินเดียออกรบต่อต้านการรุนรานของอังกฤษ จนวาระสุดท้ายของชีวิต พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ในสมรภูมิ หลังจากนั้นอังกฤษก็เข้ายึดครองอินเดียทั้งประเทศเป็นอาณานิคมของตนสืบไป

พระองค์เกิดในข่ายคืนวันเพ็ญ  ขณะที่จันทร์จรเข้าหาพฤหัส และเล็งกับเกษตรในราศีตุล ซึ่งได้ตำแหน่งเกษตร  ชี้ให้เห็นถึงจิตใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา  อย่างไรก็ตามการที่ดาวพุธและอาทิตย์ถูกเบียนด้วย เสาร์และราหู มีส่วนทำให้พระองค์กระทำการด้วยความรุนแรงต่อผู้ต่อต้านในช่วงหลายปีก่อนการล่มสลายของประเทศ  ประวัติศาสตร์บอกว่าพระองค์ทรงปฏิบัติตัวเป็นกษัตริย์ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมและความเมตตาอย่างดียิ่งมาได้ตลอด  จนกระทั่งหลายปีก่อนหน้าการล่มสลายของประเทศ  ซึ่งราหูเริ่มเข้าเสวยอายุตามระบบวิมโสษตรีทศา  ภายใต้แรงกดดันจากการรุกรานของอังกฤษจากภายนอก ผสมโรงกับการต่อต้านภายในของพวกฮินดู (น่าจะได้รับการปลุกปั่นยุยง หนุนหลังจากอังกฤษ) ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของอินเดีย ประวัติศาสตร์บอกว่าพระองค์แทบจะเปลี่ยนแปลงบุคลิกไปโดยสิ้นเชิง  กลายเป็นคนโลเลไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้  ในหมู่คณะอำมาตย์และแม่ทัพนายกองของพระองค์ก็ขาดความสามัคคี แบ่งแยกกันออกเป็นก๊กเป็นเหล่า  ราษฎรขาดความเชื่อมันในรัฐบาลของพระองค์ว่าจะนำพาประเทศชาติไปได้ตลอดรอดฝั่ง  บันทึกของพวกอังกฤษยังให้ร้ายถึงขนาดว่าพระองค์เป็นทรราชที่ใช้กำลังปราบปรามและกระทำการทรมานต่อฝ่ายตรงกันข้ามอย่างโหดร้ายทารุณ  ซึ่งข้อสุดท้ายนี้ที่ว่าพระองค์เป็นทรราชนั้น  ผู้เขียนคิดว่าเป็นการใส่ร้ายเกินจริงของอังกฤษซึ่งเป็นผู้ชนะสงครามแน่นอน  แม้โครงสร้างอาทิตย์ (วิญญาณ, ชีวิต)  และพุธ (สมอง, ความคิด) จะถูกเบียนด้วย เสาร์และราหู  และแม้ภายใต้การเสวยอายุของราหู  ก็ไม่น่าจะทำให้พระองค์โหดร้ายถึงระดับทรราชได้ เพราะโครงสร้างของจันทร์ และธรรมะกรรมะอธิปไตยโยค ย่อมเป็นโซ่ตรวนแห่งคุณธรรมที่ผูกมัดพระองค์ไว้ ทำให้ไม่สามารถกระทำการที่โหดร้ายทารุณถึงขั้นเป็นทรราชได้

จุดเสียอย่างยิ่งของดวงนี้มีสามประการคือ  หนึ่ง ดาวเจ้าเรือนลัคนา และอาทิตย์ ซึ่งเป็นจุดเจ้าชะตาหลัก สองในสาม (ลัคนา อาทิตย์ จันทร์) อ่อนแอ   ในขณะที่ พฤหัส ดาวเจ้าเรือนลัคน์ถูกเล็งด้วย เสาร์ และราหู  อาทิตย์ก็กุมกับเสาร์และราหู  อาจารย์เทพย์ท่านย้ำเสมอว่า  ในการพิจารณาพื้นดวงชะตานั้นต้องพิจารณาจุดตั้งรับ(จุดเจ้าชะตา -ลัคนา อาทิตย์ จันทร์) ว่าเข้มแข็งหรืออ่อนแอ  เปรียบเสมือนในการทำศึกสงครามแม้จะมีแสนยานุภาพทางกองทัพเพียงใด (มีโยคเกณฑ์ดีๆในดวงชะตามากมาย)  แต่ป้อมปราการคือจุดเจ้าชะตาไม่เข้มแข็ง  ก็อาจเสียทีข้าศึกได้โดยง่าย สรุปก็คือไม่ว่าจะมีโยคเกณฑ์โครงสร้างที่ดีและเข้มแข็งเพียงใดในดวงชะตา แต่จุดเจ้าชะตา อ่อนแอและถูกเบียนโดยบาปเคราะห์  โอกาสได้ดีในชีวิตจะลดน้อยถอยลงไปเป็นอันมาก  และยังอาจพบความวิบัติได้ง่ายๆอีกด้วย

จุดเสียประการที่สองซึ่งสำคัญยิ่งเช่นกันก็คือ โครงสร้างราชาโยคที่มีกำลังแรงทั้ง  3 โครงสร้างเกิดในทุสถานะภพที่ 12 คือวินาสนะ  ทำให้ผลดีที่เป็นรูปธรรมทั้งหมดสูญสิ้นไปในที่สุด  สืบเนื่องในตำแหน่งเดียวกันนี้ก็คือ  ประการที่ 3  การที่  ดาวเจ้าเรือนกรรมะ – อาทิตย์  ถูกเบียนจากการกุมของบาปเคราะห์ใหญ่ เสาร์ และราหู  ในขณะที่ เสาร์ให้แสงเต็มที่ในเกณฑ์ที่ 10 ถึง ภพ 10 อีกด้วย  ซึ่งใกล้เคียงกับสัจสูตรในวิชาโหราศาสตร์ตามความเห็นของ ดร.บีวี รามัน ที่ว่า ในดวงชะตาใด ถ้า เสาร์สถิตในภพที่ 10 จากลัคนา และได้รับแสงจาก อังคาร หรือ ราหู การถูกโค่นล้มในที่สุด เป็นสิ่งที่เจ้าชะตาไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  (Final fall is inevitable when Saturn occupies the 10^th afflicted by Mars or Rahu – Notable Horoscope, page 359) ในดวงชะตานี้แม้เสาร์จะไม่สถิตในภพที่ 10 แต่ก็ให้แสงถึง ภพที่ 10 และ กุมกับเจ้าเรือนภพที่ 10 อีกด้วย ทั้งยังมีราหูกุมเจ้าเรือนภพที่ 10 ซ้ำเข้ามาอีกชั้นหนึ่ง

 

3. สรุป โครงสร้าง “ดวงธิปู – ดวงสู้ตาย”

จากการวิเคราะห์ตามข้อ 2  สรุปว่าโครงสร้างทางโหราศาสตร์ที่ทำให้ กษัตริย์ธิปู ทรงต่อสู้กับผู้รุกรานจนสิ้นพระชนม์ในสนามรบ  ก็คือโครงสร้าง ราชาโยคทั้ง 3 โครงสร้าง  ที่สำคัญที่สุดคือโครงสร้าง “ธรรมะกรรมะอธิปไตยโยค”  ซึ่งเป็นราชาโยคชั้นยอดในโหราศาสตร์ภารตะที่มีผลทำให้พระองค์ ต้องกระทำการในสิ่งที่พระองค์สมควรต้องกระทำ  นั่นคือ พระองค์ในฐานะกษัตริย์ของอินเดีย  สมควรต้องทำหน้าที่ปกป้องชาติบ้านเมืองจนถึงที่สุด แม้จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต  ส่วนการที่พระองค์ต้องพ่ายแพ้ ล่มสลายในที่สุดนั้น ก็เพราะโครงสร้างราชาโยคทั้ง 3 โครงสร้าง เกิดขึ้นในทุสถานะภพที่ 12 (วินาสนะ)  ผลที่เป็นรูปธรรมของราชาโยคทั้งหมดจึงสูญสิ้นไปในที่สุด  อีกทั้งภพ 10 และเจ้าเรือนภพ 10 ถูกเบียนด้วยบาปเคราะห์ใหญ่ เสาร์และราหู (ใกล้เคียงกับสัจสูตร ที่ว่าด้วยการถูกโค่นล้มในที่สุด ตามความเห็นของ ดร.บีวี รามัน) ประกอบกับจุดเจ้าชะตาซึ่งเป็นจุดตั้งรับในดวงชะตา ทั้งอาทิตย์ และดาวเจ้าเรือนลัคน์อ่อนแอ ถูกเบียนด้วยบาปเคราะห์ใหญ่เสาร์และราหู

แผ่นศิลาจารึกตรงตำแหน่งที่พบพระศพของกษัตริย์ธิปู ภายหลังการรบสิ้นสุดลง

ในการรบครั้งสุดท้ายนี้กองทัพอังกฤษผู้รุกรานมีกำลังทหารประมาณ 60,000 นาย  ในขณะที่กองทัพอินเดียของกษัตริย์ธิปู มีกำลังทหารเพียงประมาณ 30,000 นายเท่านั้น  เมื่อกองทัพอังกฤษสามารถทะลายกำแพงเมืองเข้ามาได้แล้วนั้น คณะที่ปรึกษาทางทหารชาวฝรั่งเศสได้แนะนำให้กษัตริย์ธิปูหลบหนีไปก่อนทางอุโมงค์ลับ เพื่อกลับมาต่อสู้ใหม่ได้อีก  แต่ทุกคนต้องประหลาดใจที่พระองค์ทรงตอบว่า "One day of life as a Tiger is far better than thousand years of living as a Jackal - ข้าขอมีชีวิตอยู่อย่างราชสีห์แม้เพียงวันเดียว ก็ยังดีกว่ามีชีวิตอยู่เยี่ยงสุนัขจิ้งจอกไปอีกนับพันปี" กษัตริย์ธิปูเสียชีวิตในระหว่างการต่อสู้เพื่อป้องกันเมืองหลวงของประเทศ ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1799 

แม้พระองค์จะพ่ายแพ้ และสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นรูปธรรมไปจนหมดสิ้น  แต่ผลที่เป็นนามธรรมจะไม่มีวันสูญสลายไปจากความทรงจำของประชาชนชาวอินเดีย ตลอดชั่วกาลนาน  ชาวอินเดียจะไม่มีวันลืมเลยว่า พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพระองค์หนึ่งของอินเดีย  ผู้ซึ่งได้พยามต่อสู้กับผู้รุกรานเพื่อปกป้องเอกราชอธิปไตยของชาติบ้านเมือง จนกระทั่งลมหายใจสุดท้าย

4.  ดวงชะตาเปรียบเทียบ

    4.1 สมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราช

 

วันที่ 17 เมษายน  2277  เวลา 12.10 น. กรุงศรีอยุธยา ตรงกับ วันอาทิตย์ ขึ้น 10 ค่ำ ปีขาล

พระองค์ทรงเป็นมหาวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของชาติไทย  ผู้ซึ่งได้ทำการกอบกู้เอกราชของชาติไว้ได้เมื่อไทยเราต้องสูญเสียเอกราชให้กับพม่าในครั้งที่ 2  และนับจากนั้น ชาติไทยไม่เคยต้องตกเป็นเมืองขึ้นของใครอีกเลยจนกระทั่งทุกวันนี้  แต่พระองค์กลับต้องประสบเคราะห์กรรมอันร้ายแรงยิ่งในวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ

ในดวงพระชาตา  เสาร์สถิตภพที่ 10  ถูกเกณฑ์เล็งของราหูในภพที่ 7  ตรงกับสัจสูตรตามความเห็นของ ดร.บีวี รามัน - ในดวงชะตาใด ถ้า เสาร์สถิตในภพที่ 10 จากลัคนา และได้รับแสงจาก อังคาร หรือ ราหู การถูกโค่นล้มในที่สุด เป็นสิ่งที่เจ้าชะตาไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

 

    4.2  อดอล์ฟ  ฮิตเล่อร์

 

วันที่  20  เมษายน  2432 (1889)  18.30 น.   เขตเวลา  13.02 ตะวันออก Lat   48.15 N   Long   13.02 E

ผู้นำเยอรมันที่คนรู้จักกันทั้งโลก  ในฐานเป็นผู้จุดชนวนให้เกิดมหาสงครามโลกครั้งที่ 2  ถูกประณามว่าเป็นคนเลวร้าย  เป็นอาชญากร  โหดเหี้ยมทารุณผิดมนุษย์  สารพัดที่มนุษย์คนหนึ่งจะถูกประณามได้  ซึ่งคำกล่าวหาเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องจริง  ยกตัวอย่างเช่นผู้เขียนเคยคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยคนหนึ่งถึงความเอารัดเอาเปรียบและความไม่จริงใจของสหรัฐอเมริกา เขาตอบกลับว่าอเมริกาก็ยังเลวน้อยกว่ามหาอำนาจชาติอื่นๆ  อย่างน้อยอเมริกาก็ยังมีจรรยาบรรณและความละอายต่อบาปอยู่บ้าง  แล้วเขาก็ยกตัวอย่างประเทศมหาอำนาจบางประเทศมาเปรียบเทียบว่าถ้าประเทศเหล่านั้นขึ้นมาแทนที่อเมริกาจะกระทำการที่เห็นแก่ตัวและเลวร้ายยิ่งกว่าอเมริกาเสียอีก  ซึ่งผู้เขียนเห็นด้วยกับเขา  เขาปิดท้ายด้วยว่าถ้าเยอรมันชนะสงครามโลกครั้งที่สอง ป่านนี้คนไทยเราจะเป็นอย่างไร  ผู้เขียนตอบว่าฮิตเล่อร์มีความเชื่อว่า เผ่าพันธุ์ของพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ประเสริฐที่สุดในโลก  ถ้าฮิตเล่อร์ชนะสงครามคนไทยเราคงต้องเป็นชนชาติหนึ่งที่ต้องตกเป็นทาสของเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่า  ป่านนี้อาจต้องถูกนำไปเป็นสัตว์ตัวอย่างในการทดลองยา และอาวุธต่างๆของเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่าก็ได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าฮิตเล่อร์จะเลวร้ายอย่างไร  เขาก็มีคุณธรรมความดีที่ยิ่งใหญ่บางประการ  ที่ต้องแยกแยะออกมา ไม่ใช่เหมารวมว่าเขาเลวทรามไปทั้งหมดและกล่าวร้ายให้โทษ  บิดเบือนคุณความดีของเขา อย่างต่ำช้าและน่าละอาย  ไม่ว่าฮิตเลอร์จะกระทำการด้วยความรุนแรง เลวร้าย โหดเหี้ยม เพียงใด  ฮิตเล่อร์ก็ไม่เคยกระทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องเลย   ตลอดชีวิตตราบลมหายใจสุดท้ายของฮิตเล่อร์  เขาทำเพื่อรัฐเยอรมัน  และชนชาติเยอรมันที่เขารักของเขาโดยบริสุทธิ์ใจ  เขาอาจมีความเชื่อที่ผิดอย่างมหันต์  แต่เขาก็เชื่อโดยสุจริตใจว่าชนชาติอารยันของเขาเลอเลิศประเสริฐกว่าชนชาติอื่นๆในโลกนี้ทั้งหมด  เขาสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนด้วยการยุให้คนเยอรมันส่วนใหญ่ที่ยากจนในช่วงเวลาหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เกลียดชังชาวยิว  กล่าวร้ายชาวเยอรมันเชื้อสายยิวว่าที่คนเยอรมันต้องยากจนลำบากกันเช่นนั้นก็เพราะพวกยิวนี่เอง  แต่เขาทำเช่นนั้นเพราะเขาเชื่อเช่นนั้นจริงๆ  ไม่ใช่ต้องการสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนให้เกิดขึ้น เพียงเพื่อผลทางการเมืองและผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้องเลย

 

จากสัจสูตร ดวงของคนที่จะถูกโค่นล้มในที่สุด  - ในดวงชะตาใด ถ้า เสาร์สถิตในภพที่ 10 จากลัคนา และได้รับแสงจาก อังคาร หรือ ราหู การถูกโค่นล้มในที่สุด เป็นสิ่งที่เจ้าชะตาไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ –  ดวงของฮิตเล่อร์เป็นไปตามสัจสูตร 100 เปอร์เซ็นต์  เสาร์สถิตในภพที่ 10  ได้รับเกณฑ์ 4 จากดาวอังคารในภพที่ 7!

    4.3  นักธุรกิจร้อยล้าน

เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าชองดวงชะตา  จึงไม่สามารถให้วันเดือนปีเกิด และเวลาตกฟากได้  ดวงนี้ผู้เขียนเคยเตือนไว้เมื่อประมาณ 30 กว่าปีก่อนว่าอย่าประมาท  เพราะธุรกิจอาจวิบัติล่มจมในที่สุดได้  เขาหัวเราะเห็นเป็นเรื่องขำๆ คุยกันสนุกๆ   หลังจากนั้นธุรกิจของเขาก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆจนน่าจะถึงระดับพันล้าน  แต่ก็มาขาดทุนต้องปิดกิจการต่างๆลงทั้งหมดในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อประมาณปี 2541-2542  และไม่สามารถก่อร่างสร้างธุรกิจขึ้นมาใหม่ได้อีกจนถึงปัจจุบัน

จากสัจสูตร   คนที่จะถูกโค่นล้มในที่สุดอย่างแน่นอน  - ในดวงชะตาใด ถ้า เสาร์สถิตในภพที่ 10 จากลัคนา และได้รับแสงจาก อังคาร หรือ ราหู การถูกโค่นล้มในที่สุด เป็นสิ่งที่เจ้าชะตาไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ –  ดวงนี้เป็นไปตามสัจสูตรเช่นกัน  เสาร์กุมอังคารในเรือนที่ 10 จากลัคนา

    4.4  มุสโสลินี

    วันที่ 29 กรกฎาคม  ค.ศ. 1883   เวลา  14.00 น.  (LMT)   Lat  41 deg N   Long  16  deg E

จอมเผด็จการฟาสซิสต์ แห่งอิตาลี ซึ่งเป็นพันธมิตรร่วมรบในยุโรปและอาฟริกาด้วยกันกับฝ่ายนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2  ในสมัยที่เขารุ่งเรืองประชาชนนับล้านๆคนทั่วประเทศรักและชื่นชมเขาราวกับเป็นเทพเจ้า     

แต่พอประเทศแพ้สงครามก็มีคนส่วนหนึ่งที่ต้องการเอาใจผู้ชนะโดยการจับผู้นำที่ตัวเองเคยรักเคยชื่นชม สังหารอย่างทารุณด้วยการจับผู้นำของตัวเองแขวนห้อยหัวลงแล้วรุมกันทำร้ายจนตายพร้อมกับภรรยาของผู้นำ  ซึ่งเป็นการกระทำที่เลวทรามต่ำช้าและน่าอับอายที่สุด  

ในดวงชะตานี้  อาทิตย์ดาวเจ้าเรือนภพที่ 10   สถิตในภพที่ 9  ได้รับแสงจากเสาร์ ซึ่งกุมอยู่กับอังคาร  จะเห็นได้ว่า ดาวเจ้าเรือนลัคน์  เจ้าเรือนภพที่ 10 และเรือนที่ 9  ล้วนถูกเบียนทั้งสิ้น ชี้บอกถึงการถูกโค่นล้มจากอำนาจ  ดร.บีวี รามัน สรุปว่า นี่เป็นการพิสูจน์สัจสูตรในวิชาโหราศาสตร์ที่ว่า “การเบียนกันระหว่าง เสาร์ และอังคาร ที่ไปเกี่ยวข้องกับเรือนที่ 9 หรือ เรือนที่ 10 มักชี้บอกความวิบัติของเจ้าชะตาในที่สุด (Mutual afflictions between Saturn and Mars involving the 9^th house or the 10^th house are always of sinister significance (Notable Horoscopes page 313) 

 

5.  สรุป

โครงสร้างที่ทำให้กษัตริย์ธิปู  “สู้ตาย”  น่าจะเป็นโครงสร้าง “ธรรมะกรรมะอธิปไตยโยค”  กษัตริย์ธิปูจึงต้องกระทำการในสิ่งที่พระองค์สมควรจะต้องกระทำ  นั่นคือการต่อสู้กับศัตรูผู้รุกราน เพื่อปกป้องชาติบ้านเมือง จนลมหายใจสุดท้ายของพระองค์    และความวิบัติล่มจมที่เกิดขึ้นกับพระองค์นั้นน่าจะเกี่ยวเนื่องกับสัจสูตรในวิชาโหราศาสตร์ ตามความเห็นของ ดร.บีวี รามัน  ที่ว่า “ในดวงชะตาใด ถ้า เสาร์สถิตในภพที่ 10 จากลัคนา และได้รับแสงจาก อังคาร หรือ ราหู การถูกโค่นล้มในที่สุด เป็นสิ่งที่เจ้าชะตาไม่อาจหลีกเลี่ยงได้” 

ในเรื่องความวิบัติล่มจมนั้น  ดร.บีวี รามัน ยังได้กล่าวถึงสัจสูตรอีกโครงสร้างหนึ่งซึ่งน่าสนใจ  โดยยกดวงชะตาของมุสโสลินี ผู้นำอิตาลีในสงครามโลกครั้งที่ 2  มาเป็นตัวอย่าง ได้แก่ “Mutual afflictions between Saturn and Mars involving the 9^th house or the 10^th house are always of sinister significance (การเบียนกันระหว่างเสาร์กับอังคาร ที่เกี่ยวข้องกับเรือนที่ 9 หรือ เรือนที่ 10 มักชี้บอกความวิบัติล่มจมในที่สุดของเจ้าชะตา)”

ชาญชัย เดชะเสฏฐดี

วันที่ 19 กุมภาพันธ์  2557

----------

ขอขอบ คุณ ท่านผู้เขียนบทความที่ให้ความกรุณาแก่เว็บไซต์แห่งนี้  อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างทางความคิดย่อมมีได้ และผมขอจำกัดความรับผิดชอบในฐานะเจ้าของเว็บ เท่าที่กฎหมายและกติกาสังคมกำหนด ท่านที่ประสงค์จะร่วมเขียนบทความเช่นนี้ โปรดติดต่อ webmaster@rojn-info.com