webmaster@rojn-info.com
การกล่าวถึง Amazon Kindle ขณะที่เขียนบทความนี้ คือ ราวกลางปี 2554 ในแง่กาลเวลาต้องนับว่าช้าอย่างมากๆๆๆ เนื่องจากเป็นสินค้าไอทีที่มีจำหน่ายมาเป็นปีๆ แล้ว มีการปรับปรุงกันมาจนถึงรุ่นที่ 3 แล้ว แต่สำหรับคนไทยนั้น อย่าว่าแต่จะมีมนุษย์ไอทีรายไหนซื้อหา Amazon Kindle ไว้ในครอบครองอย่างตัวผมเลย แค่ใครเคยได้ยินชื่อเจ้า Amazon Kindle หรือรู้ว่าในโลกนี้มีอุปกรณ์ไอทีพรรค์นี้ก็ถือว่าความรู้รอบตัวด้านไอทีพอใช้ได้แล้ว ขณะที่อีกหลายคนอาจจะไม่รู้จักมันเลยด้วยซ้ำ สาเหตุสำคัญเนื่องจากมันเป็นผลิตภัณฑ์ของ Amazon.com ที่โดยปกติต้องสั่งซื้อจากเว็บไซต์ของเขา แม้จะมีคนไทยเปิดเว็บจำหน่าย Amazon Kindle อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ในลักษณะผู้แทนจำหน่าย เข้าใจว่าเป็นรับฝากซื้อหรือไม่ก็เป็นการทยอยซื้อมาเก็บพร้อมๆ กับทยอยขายทีละไม่กี่เครื่อง ไม่ใช่อย่างสินค้าทั่วไปที่จะมีตัวแทนจำหน่ายสั่งเข้ามาวางขายตามห้างครับ
Amazon Kindle ขนาดจอ 6 นิ้วที่จำหน่ายในปัจจุบัน
แบนเนอร์นี้จะดูเป็นแค่ภาพประกอบบทความ
หรือจะคลิกเข้าไปดูรายละเอียดต่อไปก็ตามอัธยาศัยครับ
สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก Amazon Kindle จริงๆ หรือพอจะรู้แต่ยังอธิบายไม่ถูก ลองมาดูคำนิยามที่วิกิพีเดียภาษาอังกฤษเขาให้ไว้ ดังนี้ครับ
The Amazon Kindle is an E-book reader developed by Amazon.com subsidiary Lab126 which uses wireless connectivity to enable users to shop for, download, browse, and read E-books, newspapers, magazines, blogs, and other digital media. The Kindle hardware devices use an E Ink electronic paper display that shows up to 16 shades of gray, minimizes power use and simulates reading on paper.
ผมคัดมาเฉพาะย่อหน้าแรกของบทความ http://en.wikipedia.org/wiki/Amazon_Kindle นะครับ รายละเอียดมากกว่านี้คลิกตามไปอ่านกันได้ตามอัธยาศัย คำแปลของย่อหน้าที่คัดลอกมานี้ก็ประมาณว่า เจ้า Amazon Kindle นี้ เป็นเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) ที่พัฒนาโดย Amazon.com ซึ่งใช้การเชื่อมต่อไร้สายที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งซื้อ ดาวน์โหลด ค้นหา และอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หนังสือพิมพ์ วารสาร บล็อก และสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ฮาร์ดแวร์ของคินเดิลนั้นใช้การแสดงผลแบบกระดาษอิเล็กทรอนิกส์อีอิงค์ (E Ink) ที่เป็นสีเทา 16 เฉด ซึ่งสามารถประหยัดพลังงานและจำลองการอ่านได้เหมือนกระดาษจริง
คำอธิบายของผมเองที่หวังว่าจะทำให้เข้าใจมากขึ้น คือเจ้าคินเดิลนี้ มันจัดว่าเป็นคอมพิวเตอร์ประเภทหนึ่งนั่นเองครับที่เขาออกแบบมาเพื่อการอ่านหนังสือและเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทให้เหมือนเราอ่านกระดาษจริง หลายคนถือว่าคินเดิลนี้เป็น Tablet PC ประเภทหนึ่ง แม้หน้าจอจะไม่ใช่แบบจอสัมผัส (Touch Screen) อย่าง Tablet PC ทั่วไป แต่นี่อาจจะไม่ใช่ข้อจำกัดหรือข้อด้อยโดยสังเกตจากตัวผมเองและคนอื่นๆ ที่ใช้โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตระบบสัมผัส ก็ยังจิ้มผิดอยู่เสมอ แต่เจ้าคินเดิลที่ใช้คีย์บอร์ดเล็กๆ กับปุ่มเสริมอีกไม่กี่ปุ่มสามารถที่จะควบคุมการอ่านหนังสือได้เป็นอย่างดี และสามารถเรียนรู้การใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ส่วนหนังสือหรือกระดาษอิเล็กทรอนิกส์นั้น หลายท่านคงคุ้นกับไฟล์ในรูปแบบ PDF กันเป็นอย่างดี แต่คินเดิลนั้นไม่ได้ออกแบบมาทำหน้าที่หลักในการอ่าน PDF หรอกครับ ในเมื่อเจ้าของคือ Amazon ก็ต้องออกแบบมาสำหรับไฟล์ E-book ของตัวเองที่เขาจะบริหารจัดการให้อ่านได้เฉพาะคนที่เสียตังค์ซื้อ ถ้ามัวแต่คุยรายละเอียดในเรื่องนี้เดี๋ยวจะออกทะเลไม่ได้คุยกันตามที่ตั้งหัวข้อเอาไว้ ใครสนใจใคร่รู้เรื่องทางเทคนิคอื่นๆ ขอได้โปรดค้นหาจากแหล่งความรู้อื่นๆ ก็แล้วกันครับ
ก่อนหน้าที่จะมี Amazon Kindle นั้นไซร้ บรรดาผู้ศึกษาโหราศาสตร์สากลและโหราศาสตร์ยูเรเนียนอย่างผม เขาศึกษาค้นคว้าหาความรู้กันอย่างไร? อันดับแรกย่อมไม่พ้นตำรับตำราภาษาไทยล่ะครับ แต่ก่อนผู้เขียนที่เป็นหลักคือท่านปรมาจารย์ จรัญ พิกุล และ พลตรี ประยูร พลอารีย์ ซึ่ง ณ เวลานี้ ทั้งสองท่านได้ละสังขารไปเป็นเวลานานแล้ว ผลงานของท่านทั้งสองที่ยังหลงเหลืออยู่ ฉบับที่จำหน่ายกันอย่างถูกลิขสิทธิ์นั้น ไม่ได้มีวางจำหน่ายกันโดยทั่วไป แม้บางสำนักจะแก้ปัญหาด้วยการถ่ายเอกสารจำหน่ายกันเป็นการภายใน ก็ทำได้เฉพาะแวดวงภายในสำนักของตนจริงๆ ไม่ได้ช่วยให้ตำราเหล่านั้นแพร่หลายขึ้นมาสักเท่าไหร่ ตำราของครูบาอาจารย์รุ่นหลังก็แจ้งเกิดค่อนข้างยากตามกระบวนการขั้นตอนการจัดพิมพ์หนังสือแบบไทยๆ
เรื่องจะสนใจใฝ่หาตำราภาษาอังกฤษนั้น หลายคนประกาศตนอย่างไม่อายเลยว่า “อ่านภาษาอังกฤษไม่ออก” แล้วก็หาทางออกกันง่ายๆ ด้วยการวิ่งไปตามเว็บบอร์ดต่างๆ แล้วตั้งกระทู้ถามหาความรู้กันแบบต่อจิ๊กซอว์ พูดอย่างยุติธรรมการหาความรู้แบบนี้มันก็มีทั้งผลดีผลเสีย ในวงการได้มีการคุยเรื่องนี้กันมาเยอะแล้ว รายละเอียดดูได้จากบทความ “โหราศาสตร์ยูเรเนียน กับ ความรู้แบบกระเส็นกระสาย” (http://www.rojn-info.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538691352&Ntype=6) ในเว็บนี้ และ “จิ๊กซอว์ของโหราศาสตร์สากลยูเรเนียน” (http://www.astroclassical.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=534550100) จากเว็บเพื่อนบ้านครับ
แล้วคนที่ภาษาอังกฤษแข็งแรงพอจะอ่านตำราเมืองนอกได้ หรือที่ภาษาไม่แข็งแรงมาก แต่ยังอยากได้ตำราเมืองนอกไว้โชว์หรือดูเนื้อหาที่ไม่ต้องแปลกันมาก เช่น ปฏิทินสมผุสดาว เขาแก้ปัญหากันอย่างไร? คำตอบคือ แต่ดั้งแต่เดิมชาวยูเรเนียนและโหราศาสตร์สากลจะพากันไปใช้บริการของร้านหนังสือแห่งหนึ่งชื่อว่าร้านนิพนธ์ครับ แต่ก็ใช่ว่าจะเพียงพอต่อความต้องการ ปัญหาที่เกิดขึ้นเสมอๆ คือ การที่ทางร้านสั่งซื้อหนังสือมาได้ในจำนวนจำกัด ย่อมมีการปัญหาการซื้อตัดหน้ากัน (จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม) หรือเล่มที่เราสนใจแต่ทางร้านเขาไม่ได้สั่งมาจำหน่ายด้วยเหตุอะไรก็ตาม
มาในยุคอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์กลายเป็นช่องทางใหม่ในการสั่งซื้อโดยตรงจากผู้จำหน่าย แต่ช่องทางนี้ยังคงเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ที่ไม่รู้ไอทีหรือยังกลัวเทคโนโลยีอยู่ หนทางที่อาจจะช่วยได้คือให้คนที่รู้ไอทีเขาช่วยดำเนินการให้ ในด้านราคาอาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบางคน คือ บวกค่าขนส่งและภาษีนำเข้า (ถ้ามี) แล้วอาจจะใกล้เคียงหรือมากกว่าราคาหนังสือ แต่ถ้าจะรอซื้อจากร้านในเมืองไทยราคาก็คงใกล้เคียงกัน อีกประการคือเรื่องของระยะเวลาในการจัดส่ง ถ้าเลือกวิธีการจัดส่งที่ราคาถูกหน่อยอาจจะต้องรอรับของเป็นเวลานานและอาจต้องไปรับของและเสียภาษีนำเข้าที่ไปรษณีย์ หากจะให้ส่งของถึงบ้านแบบเร็วทันใจก็จะเสียค่าส่งแพงขึ้น
Amazon Kindle ของผม ตอนที่พึ่งแกะออกจากกล่อง
แกะพลาสติคแล้วเอามาใส่ปกหนังให้ดูใกล้เคียงหนังสือจริงซักหน่อย
แล้วทีนี้คินเดิลจะเข้ามาช่วยได้อย่างไร?
ในการสั่งซื้อตัวเครื่อง Amazon Kindle นั้น ท่านจะเผชิญกับปัญหาในการสั่งซื้อในทำนองเดียวกับการสั่งซื้อหนังสือดังที่กล่าวในย่อหน้าก่อน ซึ่งจะเป็นปัญหากับท่านมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับทัศนะของท่านต่อการซื้อของทางอินเทอร์เน็ต โดยส่วนตัวผมได้สั่งซื้อ Amazon Kindle รุ่น 3 ที่มีแต่ระบบ Wi-fi ไม่มี 3G ราคาเครื่องล้วนๆ $139 คิดเป็นเงินไทยราวสี่พันกว่าบาท รวมกับค่าปกพันกว่าบาทและค่าขนส่งแล้ว รวมเป็นเงินไทยประมาณ 7 พันบาทเศษ ซึ่งเป็นราคาที่ผมยอมรับได้ แต่ถ้าท่านจะไม่ยอมลงทุนกับฮาร์ดแวร์ตัวนี้จริงๆ ด้วยเหตุใดก็ตาม ทาง Amazon ยังได้จัดทำโปรแกรม Kindle สำหรับคอมพิวเตอร์พีซีและอุปกรณ์อื่นๆ ที่ท่านถนัดให้ท่านสามารถสั่งซื้อและอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ของ Amazon ได้ โดยมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป และแม้ว่าท่านจะมีตัวเครื่องคินเดิลแล้วท่านก็ยังสามารถใช้โปรแกรมสำหรับอุปกรณ์เหล่านั้นควบคู่กันไปได้ ขอยกตัวอย่างตัวเองอีกทีว่าโดยปกติจะใช้เครื่องคินเดิลเป็นหลักในการอ่านหนังสือ แล้วก็ใช้โปรแกรม Amazon Kindle for PC และ Amazon Kindle for Android เอาไว้ดูภาพสีหรือภาพใหญ่ๆ รวมถึงบางเวลาที่สะดวกจะใช้คอมฯ หรือแท็บเล็ตมากกว่าหยิบคินเดิล
หน้าตาของโปรแกรม Kindle for PC
ทีนี้มาดูกันว่าพอผู้ศึกษาโหราศาสตร์อย่างเรามีเจ้าตัวเครื่องคินเดิลและ/หรือโปรแกรมคินเดิลสำหรับอุปกรณ์ตัวเก่งอื่นๆ ของเราแล้ว อะไรที่มันจะง่ายสะดวกสบายขึ้น อะไรที่ยังเป็นข้อจำกัดหรือข้อควรระวัง ผมขอบรรยายปนๆ กันไปทั้งข้อดีข้อเสียหรือข้อจำกัดเลยนะครับ
เมื่อเรามีเครื่องคินเดิลและ/หรือโปรแกรมคินเดิลแล้ว ขั้นต่อไปของการเป็นลูกค้าประจำของ Amazon Kindle Store เราจะต้องไปที่เว็บ Amazon.com เพื่อตั้งค่าให้เขารู้ว่าเมื่อเราคลิกสั่งซื้อหนังสือ E-book แล้ว จะไปหักเงินจากบัตรเครดิตใบไหน ท่านที่ไม่คุ้นกับการใช้บัตรเครดิตซื้อของทางอินเทอร์เน็ตคงจะมีปัญหาอีกแล้วละซี แต่ถ้าผ่านความระแวงสงสัยตรงนี้ไปได้ ท่านจะได้พบกับประสบการณ์มหัศจรรย์ในการสั่งซื้อหนังสือจากเมืองนอกในชั่วเวลาพริบตาเดียว ไม่ต้องกลัวว่าหนังสือมีจำกัดแล้วจะโดนใครซื้อตัดหน้าหรือหมดสต็อค พูดง่ายๆ มันคือการดาวน์โหลดไฟล์ขนาดเล็กๆ มาโดยมีค่าตอบแทนให้เขานั่นเอง หนังสือแต่ละรายการจะมีราคาถูกกว่าหนังสือที่เป็นเล่มอยู่แล้ว แถมยังไม่ต้องเสียค่าส่งและค่าภาษีใดๆ อีกต่างหาก ถ้าท่านเห็นว่าความสะดวกเช่นนี้จะเป็นประโยชน์กับฝ่ายที่ได้ตังค์คือ Amazon.com ซะมากกว่า กลัวจะซื้อเพลินจนวงเงินเต็มไม่รู้ตัว หรือถ้ารีบร้อนซื้อมาแล้วหนังสือมันอาจจะไม่ดีหรือไม่ใช่อย่างที่เราเข้าใจ จะทำอย่างไร ตรงนี้ผมยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการขอคืนเงินค่าหนังสือ แต่ในการป้องกันนั้น Amazon.com มีมาตรการให้เราอยู่แล้ว โดยประการแรก แทนที่จะรีบร้อนคลิกตรงปุ่ม Buy now with 1-click ให้ขอไฟล์ตัวอย่างหนังสือ (Sample) มาดูก่อนด้วยการคลิกที่ปุ่ม Send sample now ประการถัดมา หากเป็นหนังสือที่เคยมีผู้ซื้อเขียนบทวิจารณ์ (Review) เอาไว้แล้ว ท่านสามารถที่จะดูการให้คะแนนของเขาและเหตุผลแห่งความชอบ-ไม่ชอบในบทวิจารณ์นั้นๆ ก่อนได้
ที่หน้าเว็บของ Amazon ที่มีข้อมูลของ E-book เล่มใด จะมีแบเนอร์พรรคนี้ทางขวา
แทนที่จะรีบร้อนสั่งซื้อให้คลิก Send sample now ครับ
พูดถึงไฟล์หนังสือตัวอย่าง (Sample) ของเขาแล้ว ผมเคยเจอปัญหาส่วนน้อยที่ผู้เขียนกั๊กไว้ไม่ยอมจัดทำเนื้อหาที่จะบอกให้เราคาดเดาเนื้อหาของไฟล์หนังสือฉบับจริงได้เลย หากเจอ Sample เช่นนี้แล้วจะเสียเงินซื้อไฟล์เล่มจริงไปไยเล่า โดยส่วนใหญ่ Sample มักจะนำบทนำ (Introduction) ของหนังสือมาเป็นเนื้อหาหลัก ที่ใจดีหน่อยก็จะมีสารบัญให้ได้เห็นเค้าโครงของหนังสือ จนกระทั่งที่ใจดีมากๆ ยังมีเนื้อหาบทแรกให้อีกต่างหาก อ่านหนังสือตัวอย่างเหล่านี้แล้วยังจะได้ความรู้มากกว่าอ่านความเห็นของบรรดาผู้(อวด)รู้ตามเว็บบอร์ดต่างๆซะอีก หนังสือบางเรื่องถ้าเราแค่อยากรู้คร่าวๆ หรือยังไม่พร้อมจะซื้อไฟล์เล่มจริงแล้วได้ Sample ดีๆ แบบนี้ ก็ช่วยประหยัดเงินหรือชะลอการซื้อไปได้เหมือนกันครับ
ในการซื้อหนังสือเล่มจริงนั้น ปัญหาที่เจอแน่ๆ คือพอซื้อมาเก็บได้จำนวนหนึ่งก็จะเจอปัญหาเรื่องที่เก็บ ต้องหาซื้อตู้ ชั้น หรือกล่อง ฯลฯ มาเก็บให้เป็นระเบียบ จะหยิบมาใช้ในห้องในบ้าน หรือนำไปอ่านไปใช้นอกบ้านก็นำไปได้ไม่กี่เล่มขึ้นอยู่กับขนาดของหนังสือและกระเป๋าที่จะบรรจุ แต่เจ้าเครื่องคินเดิลนี้ต้องนับว่าเป็น “ห้องสมุดมือถือ” เลยครับ ด้วยขนาดที่บางเบา ถ้าเป็นตัวใหญ่อย่าง Kindle DX ขนาดกว้างยาวจะใกล้เคียงกับกระดาษ A4 ส่วน Kindle 3 ขนาดจอ 6 นิ้วอย่างที่ผมใช้ ขนาดกว้างยาวใกล้เคียงกับกล่อง DVD น้ำหนักไม่กี่ออนซ์ แม้จะต้องใส่ปกหนังหรือใส่เคสเพื่อป้องกันการกระทบกระแทกและเพื่อความสวยงามก็ไม่ได้ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากนัก หน่วยความจำที่ใช้ในการจัดเก็บไฟล์หนังสือแม้จะมีเพียง 4 GB ไม่สามารถเพิ่ม Storage Card ได้ แต่ด้วยขนาดของไฟล์หนังสือแต่ละเล่มที่เล็กมาก ทำให้คินเดิลสามารถจุไฟล์หนังสือได้นับเป็นพันเล่ม พกพาไปไหนได้ง่าย ในกรณีที่คุณใช้โปรแกรม Kindle สำหรับอุปกรณ์อื่น เครื่อง Notebook/Netbook หรือ Tablet ของคุณก็จะมีหน้าที่เป็นห้องสมุดให้คุณด้วยในลักษณะเดียวกัน
บางท่านคงเคยได้ยินนะครับว่าเจ้าเครื่องคินเดิลนี้สามารถอ่าน “กลางแดด” ได้ แต่ถ้าจะพูดให้รู้สึกดีๆ ในยุคที่แสงแดดมีรังสียูวีรุนแรงกว่ายุคก่อนๆ คงต้องบอกว่าคินเดิลสามารถใช้อ่านหนังสือ “กลางแจ้ง” หรือในที่ที่มีแสงธรรมชาติเช่นระเบียงของอาคารได้ คนไทยคงไม่ถึงขนาดไปนั่งอ่านนอนอ่านบนเตียงผ้าใบตามชายหาดอย่างในภาพโฆษณาที่เว็บของ Amazon หรอกครับ ด้วยเทคโนโลยี e-ink ที่ให้ความรู้สึกแทบจะเหมือนพิมพ์หมึกบนกระดาษจริงแทนที่จะใช้การยิงแสงเข้าตาเราเหมือนบรรดา “จอ” ของอุปกรณ์ไอทีทั่วไป ทั้งยังสามารถปรับขนาดตัวหนังสือให้ใหญ่เล็กให้พอเหมาะกับสายตาได้ ทำให้สามารถอ่าน E-book ได้นานกว่าการอ่านจากอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ ส่วนโปรแกรมคินเดิลที่รันบนอุปกรณ์ไอทีอื่นๆ ที่ผมบอกว่ามันยิงแสงเข้าตาเรานั้น เขาแก้ปัญหาด้วยการสร้างตัวเลือกให้เราอ่านหนังสือได้ในแบ็คกราวด์ที่เป็นสีซีเปียหรือตัวหนังสือสีขาวบนพื้นสีดำได้ ถึงตรงนี้ขอออกทะเล เอ๊ย! ออกนอกเรื่องนิดนึงว่าแล้วทำไมบรรดาเจ้าของเว็บไซต์ทั้งหลายทั้งไทยทั้งฝรั่งถึงยังชอบดีไซน์เว็บไซต์โดยใช้แบ็คกราวด์สีขาวกันอยู่?
ตัวอย่างโปรแกรม Kindle for PC ในโหมด Sepia
พูดถึงคุณสมบัติด้านดีของ Amazon Kindle มาก็เยอะนี่ไม่ได้หมายความขนาดจะมายั่วยุกันว่าต่อไปนี้เลิกอ่านหนังสือกระดาษกันแล้วมาอ่าน E-book แทนหรอกนะครับ ในทัศนะผมอยากให้ E-book เข้ามาทดแทนหนังสือกระดาษให้ได้สักประมาณ 70-90 เปอร์เซ็นต์ แล้วแต่ความจำเป็นของผู้ใช้งานที่ยังต้องมีหนังสือเล่มไว้บ้างเพื่อการอ้างอิงในระยะยาว รวมถึงความรู้สึกบางประการที่ E-book ทดแทนไม่ได้ อย่างที่เจอมากับตัวคือพอใช้เจ้าคินเดิลมาระยะหนึ่งก็รู้สึกว่าหนังสือกี่ร้อยกี่พันเล่มก็อ่านจากเจ้าคินเดิลตัวเดิมสีเดิมรูปร่างเดิม ตัวอักษร (Font) แบบเดิมๆ ซึ่งหากเป็นหนังสือจริง แต่ละเล่มเราจะได้สัมผัสกับดีไซน์หน้าปกแบบต่างๆ ได้สัมผัสเนื้อกระดาษแบต่างๆ การเย็บเล่ม การจัดรูปเล่มและตัวอักษรแบบต่างๆ การพลิกหน้าหนังสือกระดาษด้วยมือในกรณีที่ต้องการอ่านผ่านๆ บ้างในบางอารมณ์ หนังสือจริงยังทำได้เร็วกว่าคินเดิลเป็นอย่างมาก
ข้อจำกัดอีกประการหนึ่งคืออย่าพึ่งไปคิดไปฝันว่า หนังสือเรื่องไหนพิมพ์เป็นเล่มแล้วจะต้องมี E-book ควบคู่กันไป คือแม้จะมี E-book สำหรับคินเดิลเป็นจำนวนมากแล้วก็ยังไม่ครอบคลุมหนังสือทุกเรื่อง หลายเล่มใน Amazon เองยังคงขายในรูปแบบของปกแข็งและพ็อคเก็ตบุ๊คปกอ่อนอยู่เลยครับ จะไปโทษเจ้าของลิขสิทธิ์หนังสือว่าไม่ทันสมัยหรืออะไรก็จะเป็นบาปเปล่าๆ เอาเป็นว่าเขายังมีความไม่พร้อมบางประการก็แล้วกัน โดยผู้รู้ด้านไอทีทั้งหลายได้แต่ปลอบใจเราว่าอนาคตเขาคงปรับรูปแบบเป็น E-book กันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้านภาษาเป็นอีกข้อจำกัดหนึ่งในการจัดทำ E-book สำหรับคินเดิล ณ ปัจจุบัน Amazon มีหนังสือ E-book จำหน่ายเพียง 6 ภาษา คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน อิตาลี และโปรตุเกส เท่านั้นครับ ทั้งที่ความจริงฟอนต์ในเครื่องคินเดิลสามารถแสดงตัวอักษรได้ทุกภาษารวมทั้งภาษาไทย ซึ่งคงเป็นไปตามมาตรฐาน utf-8 แต่การเรียงสระวรรณยุกต์บน-ล่างรวมถึงการตัดคำในภาษาไทยยังไม่สามารถทำได้ครับ เหตุที่ผมทราบคือได้ทดลองแปลงไฟล์ภาษาไทยด้วยการส่งไปยังอีเมล์ประจำเครื่องกับแปลงเป็นไฟล์ E-book ฟอร์แมตอื่นที่คินเดิลอ่านได้แล้วผลเป็นยังงั้นครับ ถ้าภาษาไทยมันยุ่งยากนักแล้วภาษาอื่นๆ ของชาวโลกอีกตั้งหลายภาษาล่ะ? คงไม่ใช่เรื่องทางเทคนิคอย่างเดียวหรอกครับ ทาง Amazon คงยังไม่มีบุคลากรที่จะมาบริหารจัดการหนังสือในภาษาอื่นๆ นั่นเองครับ
พูดเรื่องภาษาของ E-book สำหรับคินเดิล แล้ว บางคนอาจจะบอกว่าแค่ภาษาอังกฤษข้าก็จะไม่รอดเฟ้ย ถ้าไม่มีภาษาไทยข้าก็ไม่เอา งั้นก็ตามใจครับ แต่กับคนที่คิดว่าเรียนภาษาอังกฤษมากับครูบาอาจารย์มาเป็น 10 ปี อยากลองอ่านดูแต่ไม่รู้จะไหวหรือเปล่า ในตัวเครื่องคินเดิลนั้นเขามีโปรแกรมดิคชันนารีมาให้แบบ Built-in เลยครับ อ่านหนังสือเล่มไหนไม่เข้าใจศัพท์คำไหนเลื่อนเคอร์เซอร์ไปตรงนั้น ก็จะมีคำแปลของคำศัพท์นั้นเป็นภาษาอังกฤษที่ง่ายขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยให้ภาษาอังกฤษของท่านแข็งแรงขึ้นมาบ้าง
ตัวอย่างรายการหนังสือโหราศาสตร์ใน Kindle Store
ว่าจะพยายามเน้นที่การใช้คินเดิลเพื่อประโยชน์ทางด้านคลังหนังสือความรู้โหราศาสตร์ ดูเหมือนยังพูดเรื่องคุณสมบัติทั่วไปของคินเดิลซะยาว ลองมาดูตัวอย่างรายชื่อหนังสือด้านโหราศาสตร์ที่ผมมีไฟล์ E-book ไว้ครอบครองในเครื่อง Amazon Kindle แล้ว กับบางรายการที่ขอ Sample เขามาดูแล้วเห็นท่าทางน่าสนใจ ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องตรงกับความสนใจหรือความจำเป็นของท่านอื่นๆ และเล่มที่ผมซื้อแล้วส่วนใหญ่ก็ยังอ่านไม่จบหรอกนะครับ ขอให้คิดซะว่าเป็นการยกตัวอย่างพอเป็นแนวทางในการพิจารณาว่าจะใช้คินเดิลในการสร้างคลังความรู้ด้านโหราศาสตร์เฉพาะบุคคลของท่านได้อย่างไรก็แล้วกันครับ
หนังสือเกี่ยวกับโหราศาสตร์ยูเรเนียน
ณ เวลานี้ต้องพูดความจริงกันก่อนครับว่า E-book สำหรับ Amazon Kindle ที่เป็นตำราโหราศาสตร์ยูเรเนียนโดยเฉพาะนั้นยังไม่มีครับ มีแต่หนังสือที่เกี่ยวกับหลักการในโหราศาสตร์ยูเรเนียนเพียง 2 เล่มดังรายชื่อข้างล่างนี้ครับ หากทราบว่ามีเพิ่มเติมเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบครับ แถมอีกหน่อยว่าหากใครคิดว่าตนเองมีความรู้ทั้งทางโหราศาสตร์ยูเรเนียนและภาษาอังกฤษเป็นอย่างดีพอที่จะเขียนตำราโหราศาสตร์ยูเรเนียนขายชาวโลกได้ละก็ ช่องทางการทำตลาดกับ Amazon Kindle รอท่านอยู่ครับ
- Midpoints: Unleashing the Power of the Planets โดย Michael Munkasey
- Solar Arcs: Astrology's Most Successful Predictive System โดย Noel Tyl
หนังสือโหราศาสตร์พื้นฐาน
หนังสือเกี่ยวกับความรู้ทางโหราศาสตร์สากลที่ควรมีไว้เพื่อการศึกษาเป็นพื้นฐานเบื้องต้นครับ
- AN INTRODUCTION TO ASTROLOGY โดย William Lilly เป็นตำราโหราศาสตร์คลาสสิคเก๋ากึ๊กตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1647 แน่นอนว่าตำราอื่นที่ใหม่กว่าทันสมัยกว่ามีถมไป จะซื้อเล่มนี้เพื่อเก็บไว้อ้างอิงเฉยๆ หรือจะไว้ศึกษาในแง่ประวัติแนวคิดโหราศาสตร์ก็แล้วแต่ครับ
- Everything Astrology Book โดย Jenni Kosarin ตำราพื้นฐานเกี่ยวกับหลักการของโหราศาสตร์สากล พื้นฐานการผสมความหมายของดาวพระเคราะห์ จักรราศี เรือนชะตา ฯลฯ
- The Basics of Astrology: How It Can Impact Your Life (Beginner's Basics) โดย LittleWhiteEbook.com เล่มนี้ต้องบอกตามตรงครับว่า “Basics” ในที่นี้ไม่ใช่หลักการพื้นฐานประเภทวิธีผูกดวง หรือความหมายดาวเคราะห์ จักรราศี เรือนชะตา ฯลฯ อย่างในเล่มอื่นๆ แต่เป็นเหมือนการปรับความคิดการนำโหราศาสตร์มาใช้ในทางที่ถูกต้องเป็นวิทยาศาสตร์แทนที่จะมาสะเดาะเคราะห์แก้กรรมอะไรพรรค์นั้นครับ
หนังสือโหราศาสตร์อื่นๆ
เป็นหนังสือโหราศาสตร์ประเภทที่เกินกว่าระดับพื้นฐานทั่วไป ซึ่งอาจจะเป็นหลักวิชาแบบวิเคราะห์เจาะลึกในบางประเด็น หรือโหราศาสตร์แนวแปลกๆ ครับ
- The Complete Guide to Crystal Astrology: 360 Crystals and Sabian Symbols for Personal Health, Astrology and Numerology โดย Marina Costelloe เล่มนี้ผมซื้อมาด้วยอิทธิลของโหราศาสตร์แนวสัญลักษณ์ซาเบียนที่บางสำนักกำลังโปรโมทกันอยู่เพื่อการอ้างอิงเปรียบเทียบครับ ซึ่งเป็นการนำเรื่องซาเบียนมารวมกับเรื่องอัญมณีนำโชค ขณะที่ซื้อมีตำราเกี่ยวกับซาเบียนเพียง 2 เล่ม หรือ 2 ชื่อเรื่อง โดยอีกเรื่องหนึ่งนั้นมีคนวิจารณ์ว่าแทนที่จะอธิบายเป็นรายองศากลับไปอธิบายจับคู่กับองศาตรงกันข้ามอันจะทำให้สับสนเปล่าๆ
- Astrology of the Moon: An Illuminating Journey Through the Signs and Houses โดย Amy Herring เป็นเรื่องของจันทร์ในราศีต่างๆ และในเรือนชะตาต่างๆ ครับ
- Solar Returns: A Study โดย Mary Fortier Shea ตำราเกี่ยวกับดวงทินวรรษหรือดวงวันเกิดครับ
- Planets In Solar Returns: Yearly Cycles of Transformation & Growth โดย Mary Fortier Shea เกี่ยวกับดวงทินวรรษหรือดวงวันเกิดเช่นกันครับ
หนังสือพยากรณ์ศาสตร์อื่นๆ
สำหรับผมอยู่ในวงการพยากรณ์ทั้งที ก็ต้องมีตำราพยากรณ์ศาสตร์อื่นๆ เก็บๆ ไว้เพื่อการอ้างอิงกันบ้าง ซึ่งแต่ละศาสตร์ก็มีรายชื่อตำราที่เป็น E-book มากกว่านี้ ในขั้นต้นก็เลือกมาเป็นตัวอย่างศาสตร์ละเล่มเท่านั้นครับ มีเงินมีเวลาอาจจะซื้อเพิ่มบ้างตามความจำเป็น
- Tarot Made Easy โดย Nancy Garen การพยากรณ์ไพ่ทาโรท์ครับ ซื้อไว้เพื่อการอ้างอิงตามกระแสไปอย่างนั้นเอง
- Fortune Telling with Cards โดย P. R. S. Foli พยากรณ์ไพ่ป๊อกครับ เสียดายว่าในเล่มไม่มีภาพประกอบ
- Palmistry Quick & Easy โดย Peter Hazel ตำราการดูลายมือ
- Feng Shui For Dummies โดย David Daniel Kennedy ตำราฮวงจุ้ย
- The Complete Book of Auras: Learn to See, Read, Strengthen & Heal Auras โดย Richard Webster การพยากรณ์แสงออร่าจากร่างกายมนุษย์ครับ เป็นอีกเล่มที่ยังอ่านไม่จบด้วยเหตุผลสำคัญว่า เราจะเห็นแสงออร่าได้เพียง 2 วิธีเท่านั้น คือ การฝึกจิต กับ การถ่ายภาพด้วยกล้องชนิดพิเศษที่ทั้งแพงและหาซื้อยาก แล้ววิชามันจะแพร่หลายได้ยังไง?
- The Wisdom of Your Face โดย Jean Haner ตำราโหงวเฮ้ง
หมายเหตุ แล้วจะทยอยเพิ่มเติมรายชื่อหนังสือและรายละเอียดต่างๆ ไปเรื่อยๆ หรือใครจะแนะนำหนังสือ เชิญที่ webmaster@rojn-info.com ครับ
Update 30 กันยายน 2554 เมื่อวันสองวันนี้ ทาง Amazon ได้วางจำหน่ายเครื่อง Kindle รุ่นใหม่อีก 4 รุ่นดังภาพข้างล่างครับ โดย เจ้า 3 ตัวทางขวาเป็นระบบ Touch Screen ครับ ส่วนตัวขวามือสุด แทบจะเรียกได้ว่าเป็น Tablet Multimedia ได้เลยครับ แต่เจ้า Touch Screen ทั้ง 3 ตัวนี้ ยังขายเฉพาะในสหรัฐอเมริกาครับ รายละเอียดและความคืบหน้าติดตามได้ตามเว็บไอทีทั่วไปหรือตรงไปที่ www.amazon.com ครับ