จอมพลเพาลุส (Friedrich Wilhelm Ernst Paulus) (ภาพจาก วิกิพีเดีย)
webmaster@rojn-info.com
นานมาแล้ว ได้เคยนำดวงของจอมพลรอมเมลมาแสดงไว้แต่ยังไม่ได้วิเคราะห์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันด้วยเหตุส่วนตัวที่พูดมากไปก็จะเหมือนแก้ตัว ซึ่งท่านจอมพลรอมเมลก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีเรื่องราวที่ต้องวิเคราะห์กันมากหน่อย ยังมีขุนพลของทางฝ่ายเยอรมันนาซีอีกท่านหนึ่งที่ในด้านชื่อเสียงเรียงนามนั้นแทบจะตรงกันข้ามกัน ขณะที่ท่านจอมพลรอมเมลมีชื่อเสียงนด้านการรบจนกลายเป็นตำนานและตำราที่ผู้สนใจประวัติศาสตร์การทหารต้องเรียนรู้จดจำ ชื่อของจอมพลเพาลุสกลับไปผูกติดกับความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของกองทัพนาซีที่เมืองสตาลินกราดประเทศรัสเซียอันถือกันว่าเป็นจุดพลิกผันที่สำคัญของสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางฝั่งยุโรปเลยครับ คำว่า "คนแพ้" อาจฟังดูไม่น่าสนใจ แต่ถ้าถามว่าแพ้ได้ยังไงนี่ ศึกษาดูให้ดีๆ แล้วมีความน่าสนใจไม่น้อยทั้งในแง่ประวัติศาสตร์การรบและในด้านโหราศาสตร์อย่างยิ่ง
มาดูประวัติของท่านผู้นี้โดยสังเขปกันก่อนครับจากวิกิพีเดียเจ้าเก่าเวอร์ชันภาษาอังกฤษมีบทนำย่อๆ เกี่ยวกับประวัติของท่านไว้ดังนี้ครับ
Friedrich Wilhelm Ernst Paulus (23 September 1890 – 1 February 1957) was an officer in the German military from 1910 to 1945. He attained the rank of Generalfeldmarschall (field marshal) during World War II, and is best known for having commanded the Sixth Army's assault on Stalingrad during Operation Blue in 1942. The battle ended in disaster for Nazi Germany when approximately 270,000 soldiers of the Wehrmacht, Axis allies and Hilfswillige were encircled and defeated in a massive Soviet counterattack in November 1942, with casualties reaching as high as 740,000.
Paulus surrendered to Soviet forces in Stalingrad on 31 January 1943, a day after he was promoted to the rank of Generalfeldmarschall by Adolf Hitler. Hitler expected Paulus to commit suicide, citing the fact that there was no record of a German field marshal ever being captured alive. While in Soviet captivity during the war Paulus became a vocal critic of the Nazi regime and joined the Soviet-sponsored National Committee for a Free Germany. He was not released until 1953.
พอดีขณะที่เขียนบทความนี้ในวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความเกี่ยวกับท่านจอมพลเพาลุส แล้วเวลาผมให้ข้อมูลอะไรเป็นภาษาอังกฤษเห็นบางท่านชอบอ้างว่าอ่านภาษาอังกฤษไม่ได้ ทั้งที่บ้านเราก็เรียนภาษาอังกฤษกันมาเป็นสิบๆปี ถ้ารักจะหาความรู้ให้กว้างขึ้นน่าจะดูแลตัวเองด้านนี้อีกสักหน่อย แต่ไม่ว่ายังไงก็ขอลองแปลให้อ่านกันคร่าวๆสักนิดก็ได้ครับ
ฟรีดริช วิลเฮล์ม แอนสท์ เพาลุส (23 กันยายน 2433 ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2500) เป็นนายทหารในกองทัพบกเยอรมันตั้งแต่ พ.ศ. 2453 ถึง 2488 โดยได้รับยศจอมพลระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากการบังคับบัญชากองทัพที่ 6 เข้าจู่โจมเมืองสตาลินกราด ระหว่างยุทธการสีน้ำเงินในปี พ.ศ. 2485 การรบยุติลงด้วยความหายนะของฝ่ายนาซีเยอรมันเมื่อกำลังพลกว่า 270,000 นายทั้งกองทัพบกเยอรมัน ทั้งชาติพันธมิตรในฝ่ายอักษะและหน่วยสนับสนุนต่างๆ ถูกปิดล้อม และพ่ายแพ้ต่อการการโจมตีโต้ขนานใหญ่ของสหภาพโซเวียตในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2485 ด้วยยอดความสูญเสียถึง 740,000 นาย
เพาลุสได้ยอมแพ้ต่อกองทัพสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2486 หนึ่งวันหลังจากได้รับการเลื่อนยศจากอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ให้เป็นจอมพล ทั้งที่ฮิตเลอร์คาดว่าเพาลุสจะฆ่าตัวตายโดยข้อเท็จจริงว่ายังไม่เคยมีบันทึกว่าจอมพลเยอรมันรายใดที่ถูกจับเป็น ในขณะที่เป็นเชลยของสหภาพโซเวียต เพาลุสได้กลายเป็นผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ระบอบนาซีอย่างหนัก และเข้าร่วมกับคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อเยอรมันเสรีที่สหภาพโซเวียตให้การสนับสนุน แต่ท่านก็ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวจนกระทั่งปี พ.ศ. 2496
ขณะส่องกล้งตรวจแนวรบ (ภาพจาก วิกิพีเดีย)
การที่พ่ายแถ้ข้าศึกจนต้องยอมจำนน แล้วแปรพักตร์ไปช่วยเขากลับมาด่าระบอบนาซีของตนนี่หมายความว่าคบไม่ได้? สำหรับผู้ที่ศึกษาเรื่องของนาซีเยอรมันมาพอสมควรคงทราบดีว่าที่จริงแล้วระหว่างฮิตเลอร์และพรรคนาซีกับกองทัพเยอรมันที่เป็นทหารอาชีพนั้นก็ใช่ว่าจะกินเส้นอะไรกันมากมาย จากการศึกษาข้อมูลต่างๆ ผมคิดว่าท่านก็เป็น “คนดี” คนหนึ่ง เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ขยันเอาการเอางานเป็นอย่างดี และไม่ค่อยจะแฮปปี้กับการที่ทหารเยอรมันบางส่วนหรือหลายส่วนไปกระทำทารุณกรรมในสมรภูมิรัสเซียสักเท่าไหร่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก ปัญหาสำคัญคือ “ความรอบคอบ” อันเป็นคุณสมบัติของเสนาธิการที่ดีกลับกลายมาเป็น “ความลังเล” ที่ผู้บัญชาการหน่วยไม่พึงจะมีอันนำมาสู่ความปราชัยของตัวท่านเอง ความวิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชานับหมื่นนับแสน และพลิกผันไปสู่ความพ่ายแพ้ของประเทศชาติในเวลาต่อมา ลืมเล่าจนได้ว่าโดยหน้าที่การงานแล้วท่านเติบโตมาจากสายเสนาธิการซึ่งแน่นอนว่าไม่มีประวัติการรบที่โดดเด่น และขาดประสบการณ์ในการบังคับบัญชาหน่วยรบอย่างมาก การที่ได้มาเป็นผู้บัญชาการกองทัพที่ 6 ในการยุทธที่สตาลินกราดนั้นก็เนื่องจากแม่ทัพคนก่อนคือนายพล Reichenau เสียชีวิตโดยกระทันหัน ก็ต้องเลื่อนเอาท่านขึ้นมาแทน แล้วจะโทษว่าท่านไม่เอาไหนหรือจะบอกว่าใครใช้ท่านผิดที่ผิดทางก็ลองคิดดูนะครับ
มาดูเรื่องของดวงชะตากันบ้างดีกว่า จอมพลเพาลุส มีชื่อเต็มๆ ว่า Friedrich Wilhelm Ernst Paulus เกิดเมื่อวันที่ 23 กันยายน 1890 หรือ พ.ศ.2433 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 10 ปีขาล จ.ศ.1252 เวลา 20.45 น. ณ เมือง Guxhagen ประเทศเยอรมัน ก่อนที่จะวิเคราะห์ดวงกันในแบบสากล-ยูเรเนี่ยนลองมาดูดวงแบบไทยๆ เรียกน้ำย่อยกันสักนิดครับ
ถ้าให้ตัวผมเองดูคร่าวๆ ไม่ค่อยจะเห็นความเด่นอะไรมากนัก ลัคนาอยู่ราศีพฤษภ เทศาตรีฤกษ์ ดาวศุกร์เจ้าเรือนเป็นเกษตรในราศีตุลย์แต่เป็นเรือนอริ ถ้าเอามุมในโหราศาสตร์สากลเข้ามาประกอบก็เป็นมุม 150 องศากับลัคนาในวังกะไม่เกิน 1 องศา เจ้าเรือนลัคนาเป็นอริเคยได้ยินคนตีความว่ามีความขัดแย้งในตัวเอง หรือการรับภาระหนัก ดูจากดาวศุกร์น่าจะเป็นคนรักสงบ ในตำราหลักโหรยังให้ความหมายของเรือนที่ 1 ในเรือนที่ 6 ว่าใกล้ชิดผู้บังคับบัญชา (ช่วงที่ยังไม่ได้เป็นแม่ทัพกองทัพที่ 6 ท่านมีความใกล้ชิดกับนายพล Reichenau แม่ทัพคนก่อนเป็นอย่างมาก) และดาวเจ้าเรือนที่ 6 ในเรือนที่ 6 เป็นคนมีบริวารมากมาย ในพื้นดวงยังมีราหูกุมลัคนาร่วมราศีกับเนปจูนและพลูโต ฯลฯ ดูในภาพรวมคล้ายๆ บุญพอจะมีแต่กรรมมาบังยังไม่ทราบ ที่จริงข้อมูลเหล่านี้ให้ไว้เพื่อการอ้างอิงสำหรับผู้ศึกษาโหราศาสตร์ไทยได้มองต่างมุมบ้างเท่านั้น รายละเอียดมากกว่านี้ให้ท่านผู้รู้ทางโหราศาสตร์ไทยไปต่อยอดกันเอาเองนะครับ
ลองมาดูดวงตามระบบโหราศาสตร์สากลบ้างดีกว่าครับ ข้อมูลจาก Astro.com ครับ
แน่นอนครับว่าพอปรับจากจักรราศีแบบไทยๆ มาเป็นแบบโหราศาสตร์สากลระบบสายนะแล้ว ตำแหน่งของดาวในราศีต่างๆ ก็จะพลอยเลื่อนไปหมด ที่น่าสังเกตคืออาทิตย์กำเนิด ซึ่งในดวงไทยเป็นราศีกันย์นั้น ในดวงสากลมาอยู่ตรงจุดเริ่มต้นราศีตุลย์องศาแรกเลย จัดว่ามีความเป็นราศีตุลย์แรงเป็นพิเศษ เรื่องของราศีตุลย์นี้ ความหมายที่เรามักทราบกันอย่างฉาบฉวยว่า "รักความยุติธรรม" โดยมีสัญลักษณ์ประจำราศีรูปตาชั่งเป็นตัวคอนเฟิร์ม ซึ่งก็ถูกในส่วนหนึ่งแต่ปัญหาคือราศีอื่นเขาไม่รักความยุติธรรมหรือ?
จากการอ่านหลายๆ ตำรา ผมพบว่าความหมายของราศีตุลย์เปรียบเหมือนความพยายามที่จะรักษาสมดุลย์ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆและสวยหรูเสมอไป ลองคิดดูเล่นๆ นะครับว่าทุกวันนี้หากเรายังใช้ตาชั่งแบบมีแขนสองข้างแบบโบราณแทนที่จะเป็นตาชั่งหน้าปัดแบบปัจจุบันจะเป็นอย่างไร? เราก็ต้องเอาของที่ยังไม่รู้น้ำหนักมาวางไว้ที่ข้างหนึ่ง เอาตุ้มน้ำหนักมาวางไว้อีกข้างหนึ่ง กว่าจะปรับให้พอดีๆ จนรู้น้ำหนักได้ตาชั่งจะเอียงไปเอียงมาขนาดไหน เช่นเดียวกับการเมืองไทยสมัยนี้ บรรดาบุคคลหรือองค์กรที่เคยได้รับความเคารพนับถือว่าเป็นกลางเหนือการเมือง เดี๋ยวนี้พอใครไม่ถูกใจอะไรก็โดนหาว่าไม่เป็นกลางบ้าง สองมาตรฐานบ้าง โดยอุปมาอุปมัย คนที่ได้รับอิทธิพลของราศีตุลย์ในดวงชะตาก็มักจะอยู่ในภาวะประมาณนี้ กรณีท่านจอมพลเพาลุสจะชัดเจนจากลักษณะที่กล่าวไว้ในตอนแรกๆ คือเป็นเสนาธิการที่รอบคอบ แต่เป็นผู้บัญชาการที่ลังเลครับ
ถัดมา จากการสำรวจตำแหน่งของปัจจัยโหรต่างๆ ตั้งแต่อาทิตย์ถึงพลูโตว่ามีอยู่ครบในราศีธาตุทั้ง 4 คือ ไฟ-ดิน-ลม-น้ำ หรือไม่ ปรากฏว่าในดวงชะตานี้ไม่มีปัจจัยใดๆ อยู่ในราศีธาตุไฟเลย ต่อให้นับรวมลัคนา เมอริเดียน และราหูด้วยก็เถิด เจ้าชะตาที่มีลักษณะเช่นว่านี้จะทำให้ดูเหมือนเป็นคนขาดความกระตือรือร้นหรือขาดแรงจูงใจในการทำงานเชิงรุก หากจะข้ามมาดูเรื่องเรือนชะตาประกอบก็จะพบอีกว่าเรือนชะตาที่ 10 ของเจ้าชะตาอันหมายถึงเป้าหมายและความสำเร็จ (Goal&Achievement) นั้นไม่มีปัจจัยใดสถิตอยู่เลย ซึ่งเป็นลักษณะของคนทำงานรูทีนหรือคนทำงานเบื้องหลังมากกว่าที่จะเป็นผู้บริหารหรือผู้ทำงานเชิงรุก จุดเด่นที่มีให้เห็นอยู่เหมือนกันคือการมีจันทร์โคจรเข้าพฤหัสอันเป็นดาวแห่งโชคลาภในระยะห่างประมาณ 6-7 องศา แต่ดาวทั้งคู่ก็สถิตอยู่ในเรือนชะตาที่ 9 อันเป็นเรื่องทางวิชาการไปนู่น ถ้าถามว่าแล้วทำไมท่านถึงมาเป็นทหารระดับนายพลจอมพลได้ล่ะ ในดวงท่านมีอังคารซึ่งเป็นอุจจ์ (Exalt) อยู่ตรงต้นราศีมกรทำมุมกับอาทิตย์ในวังกะไม่ถึง 1 องศา
ในส่วนของโหราศาสตร์ยูเรเนียนจากโปรแกรม Virgo ของผมเองนั้น ปรากฏรูปดวงชะตาดังภาพถัดไปครับ (ที่เห็น "0823 กันยายน 2433(1890)" นี่ พอดีเป็นโปรแกรมที่พยายามปรับปรุงให้แสดงวันในสัปดาห์ตามด้วยวันที่อะครับ ที่ถูกจะต้องเป็น "อ.23" หรือวันอังคารที่ 23 แต่ตอนนั้นมันยังมี Bug กะวันที่ในบางช่วง ซึ่งตอนนี้แก้ไขโปรแกรมแล้วแต่ยังขี้เกียจ Capture ภาพมาใหม่ คงปล่อยยังงี้ไปก่อนดูว่าใครจะ Copy บทความสุ่มสี่สุ่มห้าหรือเปล่า)
ในที่นี้คงจะไม่ต้องถอดศูนย์รังสีหรือจุดอิทธิพลกันให้ยืดยาวอย่างที่บางท่านชอบทำกัน เอาโครงสร้างหลักๆ เลยแล้วกันครับ ดวงของท่านผู้นี้หากใช้เรือนชะตาแบบดวงสากลทั่วไปหรือเรือนชะตาเมอริเดียน จันทร์ที่โคจรเข้าหาพฤหัสนั้นจะอยู่ในเรือนที่ 9 ดังกล่าวข้างต้น แต่หากใช้เรือนชะตาตามองศาลัคนาแยกต่างหากจากเรือนชะตาเมอริเดียน ทั้งเมอริเดียน จันทร์ และพฤหัสจะอยู่ในเรือนที่ 8 ของลัคนาครับ การให้คุณของจันทร์ที่โคจรเข้าหาพฤหัสจึงเรียกว่าไม่ให้คุณเต็มที่ หรือให้คุณแบบมีผลเสียแถมตามความหมายของเรือนที่ 8 ในทางศูนย์รังสีและเชิงมุม ด้านดีพฤหัสนั้นทำมุมกับลัคนา ราหู พุธ และศูนย์รังสีลัคนา/ราหู แต่มีของแถมไม่พึงประสงค์คือจุดสะท้อนของฮาเดสด้วยครับ กลายเป็นเรื่องของโชคลาภหรือความสุขที่ผูกติดกับความไม่น่ารื่นรมย์บางประการ แล้วแต่จะแปลตามตำราหรือประยุกต์ตีความกันใหม่
นอกจากนี้ จันทร์กำเนิดที่วิ่งเข้าพฤหัสนั้น ก็อยู่ ณ ตำแหน่งที่ทำมุมสัมพันธ์กับเสาร์ มฤตยู และโพไซดอน อยู่ ในจาน 90 องศาจะเห็นจันทร์กับมฤตยูอยู่ชิดกันฝั่งหนึ่ง และเสาร์กะโพไซดอนชิดกันอยู่อีกฝั่งหนึ่ง จันทร์+มฤตยู-เสาร์ คำแปลจะประมาณว่า ชั่วโมงตื่นเต้นอันเนื่องมาจากการพลัดพรากโดยฉับพลัน ความสูญเสียซึ่งเกิดจากประชาชนที่ลุกฮือกันขึ้นมา จันทร์+มฤตยู-โพไซดอน ชั่วโมงแห่งความตึงเครียดทางปัญญา การโฆษณาชวนเชื่อ เสาร์+โพไซดอน-จันทร์ เรื่องราวทางด้านการศึกษาที่เป็นสาธารณะ บุคคลซึ่งแตกต่างทางปรัชญาชีวิต และ เสาร์+โพไซดอน-มฤตยู ความรู้ใหม่ที่น่าทึ่งในเรื่องการศึกษาและความประพฤติของมนุษย์ ปรากฏตัวเป็นแบบอย่างโดยฉับพลันและเป็นผลทำให้เกิดการแตกแยกและการพลัดพราก ถ้าเอามาแปลยำรวมกันคงประมาณได้ว่า ในด้านบวกท่านเพาลุสก็เป็นคนจริงจัง รักที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ในด้านลบประเภทความสูญเสียพรัดพรากจากการลุกฮืออะไรนั้น มันได้มาแสดงผลในศึกเมืองสตาลินกราดอย่างชัดเจน
ทีนี้มาดูประเด็นสำคัญที่ว่าทำไมท่านเพาลุสถึงได้มาแพ้ดวงที่เมืองสตาลินกราดเข้า
เมืองสตาลินกราดนี้ปัจจุบันมีชื่อว่าเมือง Volgograd ครับ เปลี่ยนชื่อด้วยเหตุผลประมาณว่าน้ำลงตอผุดหลังจากสตาลินหมดอำนาจครับ เมื่อเร็วๆนี้รัฐบาลรัสเซียเคยมีความคิดจะกลับไปใช้ชื่อสตาลินกราดอีกเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของกองทัพในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ความที่ลุงหนวดสตาลินทำกรรมเอาไว้ไม่น้อยทำนองเดียวกันกับลุงหนวดฮิตเลอร์ แนวคิดนี้เลยเป็นอันพับไป พิกัดเมืองนี้คิดเป็นตัวเลขง่ายๆอยู่ที่แลตติจูด 48.42 องศาเหนือ ลองกิจูด 44.31 องศาตะวันออก เมอริเดียนและลัคนาประจำเมืองอยู่ที่ 16 พภ 52 และ 26 สห 52 ตามลำดับ เมื่อเอาดวงของท่านเพาลุสมาปรับเมอริเดียนและลัคนาใหม่ตามหลักการ Relocation แล้ว เมอริเดียนและลัคนาจะขยับมายัง 17 มน 57 และ 15 กฎ 45 ตามลำดับ เป็นผลให้แอดเมตอสกำเนิดมาอยู่เกือบกลางฟ้าปลายเรือนที่ 9 เกือบจะถึงเรือนที่ 10 แม้เมอริเดียนจะสัมพันธ์ 45 องศากับพฤหัส (และราหู -พุธ -โครโนส และ -ฮาเดส) แต่จันทร์กับพฤหัสนั้นก็มาอยู่ในเรือนที่ 8 ของเมอริเดียน และจากความสัมพันธ์ระหว่างพฤหัสกับฮาเดสทางจุดสะท้อนกันนั้น ข้อสังเกตส่วนตัวผมอีกอย่างหนึ่งคือ ในเมืองกุกซ์ฮาเกนบ้านเกิดของท่านนั้น ลัคนากำเนิดและลัคนาประจำเมืองสัมพันธ์กับตำแหน่งจริงของพฤหัส ที่สตาลินกราด ลัคนาประจำเมืองมาสัมพันธ์กับตำแหน่งจริงของฮาเดสเข้า ราวกับว่าท่านถูกส่งมาเมืองนี้เพื่อ "รับกรรม" ตามเหตุของพฤหัสกับฮาเดสที่สะท้อนถึงกันในดวงกำเนิดโดยเฉพาะ
ยุทธการชิงเมืองสตาลินกราดนั้น เริ่มต้นเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 1942 เวลาไม่ทราบแน่ชัด ก็ขอโมเมใช้เวลาเที่ยงวันเป็นฐานการคำนวณก็แล้วกันครับ ตำแหน่งเมอริเดียน ลัคนา และจันทร์จรฟ้าอาจจะเอาองศาแน่นอนไม่ได้ แต่เป็นช่วงที่อาทิตย์กำลังจะยกเข้าราศีกันย์ครับ ในด้านดีพฤหัสจรกำลังทับลัคนากำเนิดที่ถูกปรับ relocate มาที่เมืองนี้ แต่กลับมีแอดเมตอสจรฟ้าเข้ามาสัมพันธ์ที่มุม 90 องศาด้วย เหมือนบุญมีแต่กรรมมาบังจริงๆ ด้านเสาร์จรซึ่งมีวงรอบประมาณ 29-30 ปี กำลังทำมุม 90 องศากับเสาร์กำเนิด หรือเดินทางมาได้ 3 ใน 4 ของวงรอบที่ 2 ในชีวิต โดยมฤตยูจรฟ้าที่เดินตามเสาร์มาไม่ใกล้ไม่ไกลกำลังสัมพันธ์กับจันทร์กำเนิดสะท้อน โครงสร้างชุด จันทร์ มฤตยู เสาร์ โพไซดอน ในดวงกำเนิดกำลังจะทำงานแล้วซี?
ถัดมาอีกเดือนเดียวก็ถึงวันคล้ายวันเกิดและวันดวงจรทินวรรษของท่านเพาลุส ปรากฏภาพดวงดังนี้ครับ
ดวงกำเนิดของท่านเพาลุสนั้นเป็นช่วงวันที่อาทิตย์กำลังจะยกเข้าราศีตุลย์อยู่แล้ว ทินวรรษทีไรก็จะตรงกับปรากฏการณ์เช่นนี้ แต่กะทินวรรษในปี ค.ศ. 1942 แล้ว ทั้งอาทิตย์กำลังจะยกราศีทั้งจันทร์ใกล้จะเพ็ญ แล้วยังมีเนปจูนจ่อคิวจะยกราศีตุลย์ด้วยเหมือนกันในอีกไม่กี่วัน เรียกว่าปีนี้เป็นปีหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตเช่นเดียวกับหัวเลี้ยวหัวต่อของสถานการณ์โลก ตามปกติตามที่ผมศึกษามา ปีใดที่ดวงทินวรรษของเราตรงกับวันจันทร์เพ็ญ ปีนั้นก็มีแนวโน้มที่จะดวงขึ้นเว้นแต่จะมีตัวแปรอื่นมาลดทอนหรือหักล้างกันไป ซึ่งในกรณีทินวรรษปี 1942 ของท่านเพาลุสนี่ก็คือดาวเนปจูนนั่นเองครับ
ภาพจากภาพยนตร์สารคดี The World at War แสดงให้เห็นปฏิบัติการของกองทัพแดงที่โจมตีกองทัพโรมาเนียที่ป้องกันทางปีกให้กับกองทัพที่ 6 แล้วบีบวงล้อมเข้าหาทหารเยอรมันในสตาลินกราด
เมื่อดวงท่านแม่ทัพเป็นซะยังงี้แล้วปฏิบัติการยึดเมืองสตาลินกราดที่ท่านลุงหนวดฮิตเลอร์หมายมั่นปั้นมือนักหนามันจะสำเร็จได้ยังไงละครับ เล่ากันตามประวัติศาสตร์โดยย่อ การรบครั้งนี้ กองทัพเยอรมันใช้กำลังหลักของตัวเองในการรุกรบเข้าไปในเมือง ส่วนทางด้านข้างปีกซ้ายปีกขวานั้นชะล่าใจ ปล่อยให้กองทหารโรมาเนียป้องกันอยู่ ท่านจอมพลซูคอฟทางฝ่ายรัสเซียเห็นดังนั้นก็ส่งกำลังสองกองเข้าหักปีกทั้งสองข้างทิ้งโดยง่ายดาย จากนั้นก็ปฏิบัติการกระชับพื้นที่กะทหารเยอรมันกองทัพที่ 6 ของท่านเพาลุสหมดทุกด้าน ทางฝ่ายท่านผู้นำเยอรมันพยายามส่งกองทหารชั้นเลิศเข้าไปช่วย แต่ฝ่ายรัสเซียก็พยายามทั้งสกัดทั้งหลอกล่อจนถึงขนาดลอบเข้าไปโจมตีสนามบินสำคัญที่ยังคอยส่งกำลังบำรุงเข้าไปช่วยกองทัพที่ 6 ในเมืองสตาลินกราด จนกองกำลังที่จะไปช่วยต้องเบนเข็มไปป้องกันสนามบินแทน ทางรอดทางเดียวที่เหลือคือกองทัพที่ 6 ต้องรวบรวมกำลังกันครั้งสุดท้ายเสี่ยงดวงตีหักออกมาให้ได้ แต่ท่านเพาลุสก็เป็น "ผู้บัญชาการที่ลังเล" ดังที่ผมเกริ่นมาแต่แรกครับ ไม่ได้กล้าที่จะตัดสินดังกล่าวแต่เนิ่นๆ ปล่อยให้กองทัพที่ 6 นอนรอความตายไปเรื่อยๆ ในที่สุดท่านผู้นำอุตส่าออกคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นจอมพลโดยหวังว่าท่านเพาลุสจะยอมฆ่าตัวตายเพื่อรักษาเกียรติ แต่ด้วยความเชื่อทางศาสนาของท่านบวกกับความไม่ศรัทธาในตัวท่านผู้นำซะแล้วจึงได้ตัดสินใจยอมแพ้ต่อกองทัพรัสเซียในวันที่ 31 มกราคม 2486 (ค.ศ.1943) 1 วันหลังจากที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นจอมพลนั่นเอง (กว่ากำลังพลจะยอมแพ้ตามกันทั้งหมด ประวัติศาสตร์ถือว่าศึกครั้งนี้ยุติลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ )
ทหารเยอรมันยอมแพ้ที่สตาลินกราด (ภาพจาก วิกิพีเดีย)
ถ้าเป็นผมลองคิดจะยอมแพ้อย่างนี้แล้วไม่ขอรับยศจอมพลดีกว่า และการยอมแพ้ของท่านเพาลุสจอมพลป้ายแดงครั้งนั้น หากจะมองท่านในแง่ลบก็ดูคล้ายจะเป็นการ "ล้มบนฟูก" ชีวิตการเป็นเชลยศึกของท่านไม่ปรากฏว่าได้รับความยากลำบากอะไร ภายหลังยังเป็นผู้ที่วิจารณ์ระบอบนาซี และเข้าร่วมกับคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อเยอรมันเสรีที่สหภาพโซเวียตให้การสนับสนุน ในศาลอาชญากรสงครามท่านก็ได้มาให้การในฐานะพยานแทนที่จะเป็นจำเลยดังเช่นพวกพ้องนาซีอีกหลายราย จนได้กลับมาใช้ชีวิตในบั้นปลาย ณ เยอรมันตะวันออกที่รัสเซียหนุนหลัง จะถือว่า "ล้มบนฟูก" หรือว่าท่านลุงหนวดสตาลินยังเอ็นดูที่ท่านเพาลุสไม่ได้ก่อกรรมทำเวรกะพลเมืองรัสเซียอย่างโหดร้ายดังเช่นนาซีรายอื่นๆ ก็ไม่ทราบได้ ที่แน่ๆ บรรดาไพร่พลของกองทัพที่ 6 ที่ต้องตกเป็นเชลยที่สตาลินกราดในครั้งนั้นจำนวนกว่า 91,000 นายต้องตกระกำลำบากอยู่ในค่ายเชลยศึกในไซบีเรียเป็นปีๆ จนในที่สุดเหลือรอดกลับบ้านเกิดมาได้ราว 6,000 คน หรือราวๆ 6 เปอร์เซนต์กว่าๆ เท่านั้น
ส่งท้ายบทความขอฝากการบ้านให้ผู้ศึกษาโหราศาสตร์ยูเรเนียนลองพิจารณากัน จากการยอมแพ้ของท่านจอมพลเพาลุส ณ วันที่ 31 มกราคม 1943 ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบเวลาที่แน่นอน ก็ขอโมเมใช้ดวง ณ เวลาเที่ยงวันไปก่อนเช่นเคย ภาพแรกเป็นการเปรียบเทียบกับดวงกำเนิดของท่าน ณ เมืองกำเนิดที่กุกซ์ฮาเกน ส่วนภาพที่ 2 เปรียบเทียบกับดวงกำเนิดที่ได้ปรับเมอริเดียนและลัคนา (Relocate) มายังเมืองสตาลินกราดแล้ว ลองพิจารณาด้วยตัวท่านเองนะครับว่าเหตุการณ์จรแบบนี้ควรจะใช้ดวงกำเนิด ณ สถานที่เกิดดั้งเดิมโดยไม่ต้องสนใจสถานที่ที่เกิดเหตุ หรือควรใช้ดวงที่ปรับเมอริเดียนและลัคนามายังสถานที่เกิดเหตุ หรือจะต้องยอมเสียเวลาดูเมอริเดียนและลัคนาทั้ง 2 ชุดประกอบกันอย่างไรแค่ไหน หรือจากการที่ผมอุตส่าเขียนมาตั้งแต่ต้นคาราคาซังมาเป็นเดือนๆ จนพึ่งจะมาเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 นี้ หลักการอันไหนน่าเชื่อถือควรจะนำไปใช้ต่อยอดอย่างไร หรือจะมีวิธีการใดที่จะน่าเชื่อถือกว่าจะเข้ามาเพิ่มเติมหรือทดแทน รวมถึงตัวจอมพลเพาลุส ว่าท่านเป็นคนขี้แพ้ ทรยศ หรือควรเห็นใจแค่ไหนอย่างไร ลองพิจารณากันดูนะครับ
จอมพลเพาลุส ขณะแถลงต่อสื่อมวลชนที่กรุงเบอร์ลินตะวันออก ปี ค.ศ. 1954/ พ.ศ. 2497 (ภาพจาก วิกิพีเดีย)
แหล่งข้อมูลอ้างอิงซึ่งผู้อ่านควรศึกษาเพิ่มเติม